|
|
|
|
|
|
"น้ำมันพุ่ง รับข่าวท่อน้ำมัน Keystone ที่จะแล้วเสร็จสิ้นปี"
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 1.25 เหรียญฯ ปิดที่ 109.19 เหรียญฯ ขณะที่เวสต์เท็กซัสส่งมอบ พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 2.06 เหรียญฯ ปิดที่ 104.10 เหรียญฯ
+ บริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ TransCanada ของแคนาดาคาดการณ์ว่าจะเปิดดำเนินการระบบท่อขนส่ง Keystone ภายในสิ้นปี 2013 โดยปัจจุบันสร้างเสร็จแล้วประมาณ 95% ซึ่งท่อดังกล่าวมีความสามารถขนส่งน้ำมันดิบจำนวนกว่า 700,000 บาร์เรลต่อวัน จากคลังเก็บน้ำมัน Cushing รัฐ Oklahoma มายังโรงกลั่นน้ำมันแถบอ่าวเม็กซิโก ซึ่งจะส่งผลให้ลดแรงกดดันอุปทานน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและหนุนราคา
+ ดัชนีภาคบริการในจีนเดือนก.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 55.4 จุด จาก 53.9 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งตัวเลขภาคบริการที่ปรับขึ้นดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขภาคการผลิตที่ประกาศไปก่อนหน้านี้
+ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ประธานธนาคารอีซีบีกล่าวภายหลังการประชุมว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนยังคงฟื้นตัวอย่างช้าๆ พร้อมกับยืนยันว่าอีซีบีจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
- ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ ปรับลดลงอยู่ที่ 166,000 ในเดือน ก.ย. ต่ำกว่าคาดที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 180,000
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์
สิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. 56 ปรับเพิ่มขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล แต่อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่บริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ปรับลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 13 โดยล่าสุดปรัลดลง 59,000บาร์เรล มาอยู่ที่ 32.8 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากไต้หวันในเดือน พ.ย. และปริมาณการนำเข้าของอินโดนีเซียในเดือน พ.ย. อยู่ในระดับเดียวกันกับเดือน ต.ค.
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้น จากทาง ไตหวัน และประกอบกับทางจีนได้โควตาส่งออกน้ำมันดีเซลมากกว่า 1 ล้านตันในไตรมาส 4 แต่อย่างไรก็ตามตลาดคาดว่าอินเดียจะส่งออกน้อยลงจากความต้องการในประเทศสูงขึ้น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดว่าราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 102-108 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันเวสต์เท็กซัส ขณะที่เบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ จับตามองแนวทางการแก้ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะมีกำหนดเส้นตายภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้
และ ติดตามดัชนีภาคการบริการ ยอดคำสั่งซื้อโรงงาน และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพฤหัส: ดัชนีภาคการบริการ ยอดคำสั่งซื้อโรงงาน และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ รวมไปถึงดัชนีภาคบริการและยอดค้าปลีกสหภาพยุโรป
วันศุกร์: การจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงานสหรัฐฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- ติดตามการแก้ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะมีกำหนดเส้นตายภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ โดยหากสหรัฐฯยังไม่สามารถดำเนินมาตรการพิเศษใดๆ อาจส่งผลให้สหรัฐฯต้องผิดนัดชำระหนี้ที่จะครบกำหนด
- สภาวะทางการคลังและการเงินของสหภาพยุโรปที่ยังคงน่าเป็นห่วง หลังกรีซมีท่าทีว่าอาจต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเป็นรอบที่ 3 ขณะที่การเจรจาเรื่องงบประมาณเพื่อจ่ายหนี้ของอิตาลีล้มเหลว นอกจากนี้ฝรั่งเศสเองได้มีการประกาศปรับลดงบประมาณประจำปี 2557 เนื่องจากหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงขึ้น
- จับตาอุปทานน้ำมันดิบของลิเบียและอิรัก ว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ตามคาดการณ์หรือไม่ ภายหลังสถานการณ์ความตึงเครียดภายในลิเบียคลี่คลายลงบ้าง รวมไปถึงอิรักเองที่สามารถซ่อมท่อขนส่งน้ำมันได้
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
03 ต.ค. 2556 เวลา : 11:51:42
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น