ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ดัชนีเชื่อมั่นราคาทองคำต.ค.ทรุด ปัจจัยเสี่ยงเพียบ


นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index)เดือนต.ค.56  ชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 จุด อยู่ที่ระดับ 46.71 จุด โดยลดลงจากเดือนกันยายน 17.28 จุด หรือ 27.00% สะท้อนทัศนคติเชิงลบของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อราคาทองคำในประเทศเดือนตุลาคม

"ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 จุด อยู่ที่ระดับ 46.71 จุด โดยลดลงจากเดือนกันยายน 17.28 จุด หรือ 27.00% สะท้อนทัศนคติเชิงลบของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อราคาทองคำในประเทศเดือนตุลาคม ซึ่งแยกตามประเภทกลุ่มตัวอย่างพบว่ากลุ่มผู้ค้าทองคำมีค่าดัชนีสูงกว่า 50 จุดเล็กน้อยที่ระดับ 50.83 จุด หมายถึงยังมองเชิงบวกเล็กน้อยแต่กลุ่มผู้ลงทุนกลับมองเชิงลบ ทั้งนี้ ปัจจัยที่กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าจะกระทบต่อราคาทองคำระหว่างเดือน 55.18% ได้แก่ เรื่องความผันผวนของค่าเงินบาท 48.01% ประเด็นการชะลอ QE และ 42.23% คือสำหรับประเด็นปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ" นายกมลธัญ ระบุ
         
 ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะ 3 เดือนสอดคล้องกันที่สะท้อนทัศนคติเชิงลบ โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 48.26 จุด ลดลงจากการจัดทำในเดือนกันยายน 18.82 จุด หรือ 28.06% สำหรับคำถามว่านักลงทุนจะซื้อทองคำในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้าหรือไม่ พบว่ากลุ่มตัวอย่าง 36.33% จะซื้อทองคำในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้า กลุ่มตัวอย่าง 40.32% คิดว่าจะยังไม่ซื้อทองคำและ 23.35% ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่  ซึ่งลักษณะพฤติกรรมสอดคล้องกับค่าดัชนีที่มีมุมมองเชิงลบ ทำให้มีน้ำหนักของกลุ่มที่เชื่อว่าจะยังไม่ซื้อทองคำในช่วงหนึ่งเดือนในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มที่คิดว่าจะซื้อ

การลงทุนในช่วงนี้ ควรเน้นการลงทุนในทองคำระยะสั้น ให้ลงทุนแบบทยอยขายเมื่อมีกำไร และลดพอร์ตการลงทุนในทองคำลง 10-15% และแนะนำให้นำส่วนดังกล่าวไปลงทุนในตลาดหุ้นแทน เนื่องจากมองว่าปัจจุบันราคาหุ้น ในตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในราคาที่ต่ำอยู่
          
นายกมลธัญ ระบุว่า ต้องมีการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพราะปัจจุบันมีประเด็นเสี่ยงที่จะกระทบราคาทองคำค่อนข้างมาก ในประเด็นเกี่ยวกับการชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) สหรัฐฯ ที่จะมีการประชุมในช่วงเดือน ต.ค. ทั้งนี้มองว่าหากกรณีที่ปัญหาเพดานหนี้สามารถคลี่คลายก็มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะมีการชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) สหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามสถานการเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่นิ่ง อาจจะมีการเลื่อนการชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) สหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค.

ด้าน ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย เปิดเผยบทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) ที่รวบรวมตัวอย่างจากผู้ค้าส่งทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 11 ตัวอย่าง เชื่อว่า ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเดือนตุลาคมโดยรวมน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200 – 1,440 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่ากรอบราคาต่ำสุดในเดือนตุลาคมน่าจะอยู่ในช่วง 1,260-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่กรอบสูงสุดน่าจะอยู่ในกรอบ 1,380-1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์
         
 ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 96.5%) กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าราคาจะเคลื่อนไหวระหว่าง 18,200-20,900 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดกลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักระหว่าง 18,800-19,000 บาทต่อหนึ่งบาท และมีกรอบการเคลื่อนไหวสูงสุดบริเวณ 20,600-20,900 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ โดยมีประเด็นเรื่องเพดานหนี้สหรัฐฯเป็นประเด็นสำคัญที่อาจจะกำหนดทิศทางของราคาทองคำในช่วงท้ายของปี

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท ยังเป็นประเด็นความเสี่ยงต่อราคาทองคำในประเทศ โดยเชื่อว่าในช่วงเดือน ต.ค. ค่าเงินบาทยังมีทิศทางความผันผวนจากทิศทางการไหลเข้าไหลออกของเงินจากปัจจัยในต่างประเทศ  โดยเฉพาะนโยบายการเงินการคลังสหรัฐฯ เช่นปัญหาเพดานหนี้ และ การชะลอ QE ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศที่ยังไม่มีความแน่นอนเกี่ยวกับ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท และ โครงการน้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท  หากโครงการสามารถเกิดขึ้นได้ ก็จะส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มเข็งขึ้น จากการกลับเข้ามาลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตามคาดว่าระยะสั้น ต.ค.-ธ.ค. เงินบาทจะอยู่ที่ 31-32 บาท โดยในช่วงระยะยาวเงินบาทจะผันผวนในกรอบ 33-34 บาทนอกจากนี้ยังเชื่อว่าทิศทางของค่าเงินบาทน่าจะยังผันผวนในช่วงไตรมาส 4 ต่อเนื่องจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญ
         
 สำหรับการพิจารณาผลกระทบของสถานการณ์ Government Shutdown หรือการปิดทำการชั่วคราวของหน่วยงานรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดเหตุการดังกล่าวในช่วงปี ค.ศ. 1976-1996 จำนวน 17 ครั้งพบว่าโดยทั่วไปไม่มีความสัมพันธ์ต่อราคาทองคำไปในทิศทางใดทั้งในช่วงของการปิดทำการ หลังจากเปิดทำการในช่วงสัปดาห์แรก และหลังจากเปิดทำการในช่วง 1 เดือนแรก แต่ที่น่าสังเกตุคือในกรณีที่มีการปิดหน่วยงานรัฐเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไปพบว่าราคาทองคำมักจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในช่วงของการปิดทำการ หลังจากเปิดทำการในช่วงสัปดาห์แรก นอกจากนี้ยังพบว่าในช่วงของการหาข้อตกลงไม่ว่าสภาล่าง (house) และสภาสูง (senate) จะเป็นพรรคเดียวกันหรือไม่ ไม่มีผลต่อระยะเวลาของการปิดทำการและไม่กระทบต่อราคาทองคำเช่นกัน


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 ต.ค. 2556 เวลา : 13:25:04

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:08 am