ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์ชี้่น้ำมันขึ้นจากความกังวลในเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง


 

น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.48 เหรียญฯ ปิดที่ 110.16 เหรียญฯ ขณะที่เวสต์เท็กซัสส่งมอบ พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.46 เหรียญฯ ปิดที่ 103.49 เหรียญฯ
 
+ ราคาน้ำมันดิบขึ้นหลังตลาดมีความกังวลในอุปทานน้ำมันดิบจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง สืบเนื่องจากการจับกุมนาย Abu Anas al-liby หัวหน้ากลุ่ม al Qaeda ในเมืองหลวงของลิเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และ จากการปะทะของกองกำลังทหารกับผู้สนับสนุนประธานาธิบดี Mursiในอียิปต์ เมื่อวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันครบรอบการทำสงครามกับอิสราเอลเมื่อปี ค.ศ. 1973 จากเหตุการณ์รุนแรงนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 53 คนและบาดเจ็บอีกเกือบ 300 คน โดยการชุมนุมระหว่างผู้สนับสนุนประธานาธิบดี Mursi จะมีอีกครั้งในวันศุกร์นี้ที่จตุรัส Cairo's Tahrir
 
- อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯยังไม่มีทางออกในวิกฤติงบประมาณ โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้เร่งเร้าให้พรรครีพับลิกันลงมติผ่านงบประมาณเพื่อที่จะยุติสภาวะ Government Shutdown โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเริ่มเจรจาต่อรองกับพรรครีพลับลิกันอีกครั้งหลังจากที่รัฐบาลเริ่มกลับมาดำเนินงานตามปกติ
 
- IMF ปรับลดคาดการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกปีนี้ลง 0.3% มาอยู่ที่ 2.9% เทียบกับคาดการ์เดิมตั้งแต่เดือน ก.ค. 2556 โดยสาเหตุหลักจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆมีแนวโน้มลดน้อยลง
 
-/+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ณ วันที่ 4 ต.ค. 56 ปรับเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ 366.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลเนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันลดปริมาณการกลั่นน้ำมันลงวันละ 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลงมากว่าคาดที่ 2.8ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลงมากกว่าคาดที่ 1.1 ล้านบาร์เรล
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าอุปสงค์ในภูมิภาคยังอ่อนตัวอยู่และอินเดียส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นก็ตาม
 
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบเนื่องจากโรงกลั่นเอเชียเหนือลดกำลังการผลิตลงเพื่อหันไปผลิตน้ำมันเคโรซีนแทนตามอุปสงค์ในหน้าหนาว
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 102-108 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ จับตาการแก้ปัญหา Government Shutdown และปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะมีกำหนดเส้นตายกลางเดือนนี้และยอดค้าส่งสหรัฐฯ และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพุธ: ยอดค้าส่งสหรัฐฯ และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
วันพฤหัส: ยอดนำเข้า-สั่งซื้อ ยอดขายร้านสาขา และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ
วันศุกร์: ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก และความรู้สึกผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- โอบามาจะทำให้หน่วยงานราชการของสหรัฐฯ กลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้งเมื่อไหร่ และจะแก้ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่มีกำหนดถึงเส้นตายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ได้หรือไม่ ซึ่งหากสหรัฐฯ ไม่สามารถดำเนินมาตรการใดๆ อาจทำให้สหรัฐฯ ต้องผิดนัดชำระหนี้ได้
 
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของอิตาลียังคงเป็นที่น่าจับตา ว่ารัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเอ็นริโกจะมีเสถียรภาพเพียงใด เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อแผนการแก้ปัญหาหนี้ของอิตาลีได้
 
- จับตาการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียและอิรักว่าจะเพิ่มขึ้นได้ตามคาดการณ์หรือไม่ ภายหลังสถานการณ์ความตึงเครียดภายในลิเบียคลี่คลายลงบ้าง รวมไปถึงอิรักเองที่สามารถซ่อมท่อขนส่งน้ำมันได้
 
- ติดตามรายงานภาพรวมเศรษฐกิจและทิศทางเศรษฐกิจโลกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่จะออกมาในวันที่ 8 ต.ค. นี้ ซึ่งจะแสดงมุมมองของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในแต่ละภูมิภาค
 
- ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ต.ค. โดยสำนักสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ, EIA (8 ต.ค.) สำนักงานพลังงานสากล, IEA (10 ต.ค.) และโอเปก (11 ต.ค.)


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ต.ค. 2556 เวลา : 09:35:20

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:18 am