บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันมีปัจจัยได้รับแรงกดจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ พุ่ง   คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 102-108 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล

น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ พ.ย. ปรับลดลง 1.10 เหรียญฯ ปิดที่ 109.06 เหรียญฯ ขณะที่เวสต์เท็กซัสส่งมอบ พ.ย. ปรับลดลง 1.88 เหรียญฯ ปิดที่ 101.61 เหรียญฯ
 
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ต.ค. 56  ปรับเพิ่มขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรล สูงกว่าการคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบารร์เรล ซึ่งหากมองภาพรวมในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้วกว่า 14.9 ล้านบาร์เรล นับเป็นการปรับตัวสะสมในช่วง 3 สัปดาห์ที่มีปริมาณสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย 55 โดยสาเหตุหลักเนื่องการปรับตัวลดลงของอุปสงค์จากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมัน
 
+ แต่อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่บริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ปรับลดลง 0.17 ล้านบาร์เรล ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และปรับลดลงไปแล้วกว่า 17 ล้านบาร์เรล ในช่วง 14 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.15 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1.3 ล้านบาร์เรล
 
 - นอกจากนั้น EIA ได้ปรับลดการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปี 2556 ลง 0.14 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 0.97 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่อุปทานปรับเพิ่มขึ้น 0.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยูที่ระดับ 1.51 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนในปี 2557 อุปสงค์น้ำมันถูกปรับลดลง 0.02 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 1.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่อุปทานรคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
 
+ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศแต่งตั้ง เจเน็ต เยลเลน ขึ้นเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่ ต่อจาก เบน เบอร์นันเก้ ซึ่งมีกำหนดพ้นวาระการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ในวันที่ 31 ม.ค. 57  ทั้งนี้ มีการคาดการ์ว่า เจเน็ต เยเลน มีแนวโน้มที่จะสานต่อการดำเนินนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในทิศทางเดียวกับประธานเฟดคนก่อนหน้า
 
+ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีความกังวลในประเด็นปัญหาการทางคลังและการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งการปิดหน่วยงานได้ย่างเข้าสู่วันที่ 9 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลบั่นทอนความเชื่อมั่นในการบริโภคและการลงทุนและส่งผลให้อุปสงค์พลังงานปรับตัวลดลง
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในภูมิภาคยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากอินโดนีเซีย ผู้นำเข้าหลักในภูมิภาค นอกจากนั้นยังมีการคาดการณ์ว่าจะมีอุปสงค์จากอิรักในช่วงต้นปี 2014
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคยังอยู่ในสภาวะตึงตัว ขณะที่อุปสงค์ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 102-108 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ จับตาการแก้ปัญหา Government Shutdown และปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะมีกำหนดเส้นตายกลางเดือนนี้
ส่วนคืนนี้ติดตามยอดนำเข้า-สั่งซื้อและยอดขายร้านสาขา รวมถึงยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพฤหัส: ยอดนำเข้า-สั่งซื้อ ยอดขายร้านสาขา และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ
วันศุกร์: ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก และความรู้สึกผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- โอบามาจะทำให้หน่วยงานราชการของสหรัฐฯ กลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้งเมื่อไหร่ และจะแก้ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่มีกำหนดถึงเส้นตายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ได้หรือไม่ ซึ่งหากสหรัฐฯ ไม่สามารถดำเนินมาตรการใดๆ อาจทำให้สหรัฐฯ ต้องผิดนัดชำระหนี้ได้
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของอิตาลียังคงเป็นที่น่าจับตา ว่ารัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเอ็นริโกจะมีเสถียรภาพเพียงใด เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อแผนการแก้ปัญหาหนี้ของอิตาลีได้
- จับตาการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียและอิรักว่าจะเพิ่มขึ้นได้ตามคาดการณ์หรือไม่ ภายหลังสถานการณ์ความตึงเครียดภายในลิเบียคลี่คลายลงบ้าง รวมไปถึงอิรักเองที่สามารถซ่อมท่อขนส่งน้ำมันได้
- ติดตามรายงานภาพรวมเศรษฐกิจและทิศทางเศรษฐกิจโลกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่จะออกมาในวันที่ 8 ต.ค. นี้ ซึ่งจะแสดงมุมมองของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในแต่ละภูมิภาค
- ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ต.ค. โดยสำนักงานพลังงานสากล, IEA (10 ต.ค.) และโอเปก (11 ต.ค.)