น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ พ.ย. ปรับลดลง 0.52 เหรียญฯ ปิดที่ 111.28 เหรียญฯ ขณะที่เวสต์เท็กซัสส่งมอบ พ.ย. ปรับลดลง 0.99 เหรียญฯ ปิดที่ 102.02 เหรียญฯ
 
- นักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯที่ใกล้ครบกำหนดเส้นตายวันที่ 17 ต.ค. แม้ว่าล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านจะมีการหารือระหว่างพรรครีพับลิกันกับเดโมเครตถึงแนวทางในการเลื่อนเส้นตายเพดานหนี้ออกไปชั่วคราวประมาณ 6 สัปดาห์ ไปเป็นวันที่ 22 พ.ย. แต่ยังไม่มีข้อสรุปหรือข้อตกลงที่เป็นทางการจากการหารือออกมาแต่อย่างใด
 
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือนต.ค.ดิ่งลงต่ำสุดตั้งแต่ต้นปี มาอยู่ที่ 75.2 จุด จาก 77.5 จุดในเดือนก.ย. สาเหตุหลักมาจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯอันเนื่องมาจากผลพวงของวิกฤติงบประมาณที่ส่งผลให้หน่วยงานราชการต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวตั้งแต่ 1 ต.ค. เป็นต้นมา รวมทั้งพนักงานราชการจำนวนกว่า 800,000 คนต้องหยุดงานชั่วคราว
 
- สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่าในปี 2014 ปริมาณผลิตน้ำมันดิบจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะพุ่งขึ้นสูงกว่า 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ปริมาณผลิตน้ำมันดิบจากสหรัฐฯในปีหน้าจะแซงรัสเซีย และส่งผลให้ประเทศในกลุ่มโอเปกโดยรวมผลิตน้ำมันดิบลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อรักษาสมดุลของอุปสงค์และอุปทานส่วนเพิ่มของน้ำมันดิบในปี 2014
 
+ อย่างไรก็ดี ข่าวการเตรียมหยุดงานประท้วงของคนงานโรงกลั่นน้ำมัน Grangemouth ในสก็อตแลนด์ วันที่ 20 ต.ค. เป็นเวลา 48 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่แหล่งผลิตน้ำมันดิบ Forties บางส่วนอาจต้องชะลอหรือหยุดผลิตเนื่องจากโรงกลั่นดังกล่าวใช้ระบบไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกับระบบท่อส่งน้ำมันดิบ Forties
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดีความต้องการนำเข้าภายในภูมิภาคโดยเฉพาะเวียดนามและอินโดนีเซียยังค่อนข้างน้อย รวมทั้งตลาดยังจับตาปริมาณอุปทานน้ำมันเบนซินที่จะเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.หลังโรงกลั่นน้ำมันในไต้หวันเตรียมเปิดดำเนินการหน่วยผลิตน้ำมันเบนซินหลังหยุดซ่อมบำรุงไปก่อนหน้านี้
 
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากนักค้าน้ำมันยังคงกังวลถึงปริมาณอุปทานน้ำมันดีเซลที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในภูมิภาคในช่วงไตรมาส 4 หลังโรงกลั่นน้ำมันในจีนได้รับโควต้าส่งออกน้ำมันดีเซลในช่วงไตรมาส 4 อย่างไรก็ดีปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังประจำสัปดาห์ที่สิงคโปร์ที่ปรับลดลงกว่า 1 ล้านบาร์เรลเป็นปัจจัยช่วยหนุนราคาน้ำมันดีเซลในระยะสั้น
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 100-106 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 108-114 เหรียญฯ จับตาการแก้ปัญหา Government Shutdown และปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะมีกำหนดเส้นตายกลางเดือนนี้
ส่วนคืนนี้ติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตจีน รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันจันทร์: ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตจีน รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป
วันอังคาร: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (ZEW) ของสหภาพยุโรปและเยอรมนี
วันพุธ: ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯและสหภาพยุโรป
วันพฤหัส: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ยอดขอสร้างบ้านใหม่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ และผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย
วันศุกร์: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและจีดีพีไตรมาส 3/56 ของจีน
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- ภาวะชะงักงันทางการเมือง เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯยังคงล้มเหลวในการเจรจางบประมาณฉุกเฉิน เพื่อยุติภาวะ Government Shutdown สร้างความกังวลต่อการเจรจาปรับเพดานหนี้ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 17 ต.ค นี้
- ติดตามรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ภายหลังจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 15 ล้านบาร์เรลในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
- การหารือระดับสูงระหว่างทางการสหรัฐฯและอิหร่านต่อประเด็นโครงการนิวเคลียร์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจ
- จีดีพีไตรมาส3 ปี 2556 จีน ซึ่งจะประกาศในวันที่ 18 ต.ค.นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าจีดีพีของจีนจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.8% จาก 7.5%ในไตรมาสก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีในช่วงก่อนหน้าโดยเฉพาะภาคส่งออกและการผลิต