ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
YLG มองการแข็งค่าของเงินบาท กดดันราคาทองคำในประเทศขยับขึ้น


 

 

YLG มองราคาทองคำวันนี้ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท กดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำในประเทศไว้


สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 17 ตุลาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,275.08-1,318.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV13 อยู่ที่ 19,290 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 280 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,060 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV13 อยู่ที่ 660 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 660 บาท(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.21 น.ของวันที่ 17/10/13)

 

 


แนวโน้มวันที่ 18 ตุลาคม 2556    
       
สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายของวุฒิสภาในการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาล โดยส่งร่างกฎหมาย ดังกล่าวไปยังประธานาธิบดีบารัค โอบามา เพื่อลงนามทำให้สหรัฐพ้นจากวิกฤติหนี้ และหลีกเลี่ยงการ ผิดนัดชำระหนี้ แต่การบรรลุข้อตกลงที่เฉียดฉิวครั้งนี้ไม่สามารถขจัดความขัดแย้งที่สำคัญเรื่องนโยบายการคลังในสภาคองเกรสได้ รวมถึงการจัดสรรงบประมาณเพื่อเปิดดำเนินการหน่วยงานรัฐบาลอีกครั้ง ซึ่งเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาชั่วคราวเท่านั้น โดยอนุมัติงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลสหรัฐถึงเพียง วันที่ 15 มกราคม 2014 และจะเพิ่มเพดานหนี้ถึงเพียงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2014

ดังนั้น ตลาดก็จะเผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะมีความขัดแย้งเรื่องงบประมาณ และการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า สถานการณ์กลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาตลาดทองคำอ่อนตัวลงมาอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ ส่งผลให้นักลงทุนกล้าเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเมื่อเห็นความชัดเจนของสถานการณ์ ประกอบกับมุมมองที่ว่าการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐเป็นระยะเวลา 16 วัน อาจจะส่งผลให้จีดีพีไตรมาส 4 ของสหรัฐอาจชะลอตัวลง ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้วายแอลจีแนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเป็นหลัก สำหรับวันนี้วายแอลจี ประเมินว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นโดยราคาทองคำมีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,320-1,329 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามการจับตาความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกนั้น ยังไม่เพียงพอสำหรับนักลงทุนในประเทศ เพราะการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ผันผวนในช่วงนี้ ทำให้นักลงทุนทำกำไรในตลาดทองคำในประเทศได้ค่อนข้างยาก โดยการแข็งค่าของเงินบาทนั้นกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำในประเทศ
       
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวขยับขึ้นและ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไปที่ 1,329 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ  ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,285 ดอลลาร์ต่อออนซ์
                
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ       1,293 (18,970บาท)       1,285 (18,850บาท)        1,272 (18,660บาท)  
แนวต้าน      1,320 (19,370บาท)       1,329 (19,500บาท)        1,337 (19,620บาท)     

           GOLD FUTURES (GFV13)
แนวรับ        1,293 (19,080บาท)       1,285 (18,960บาท)        1,272 (18,770บาท)  
แนวต้าน       1,320 (19,480บาท)       1,329 (19,610บาท)        1,337 (19,730บาท)     

SILVER FUTURES (SVV13)
แนวรับ           21.50 (651 บาท)          21.15 (640 บาท)             20.90 (632 บาท)    
แนวต้าน          22.20 (673 บาท)          22.45 (680 บาท)             22.70 (688 บาท)             


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ต.ค. 2556 เวลา : 17:59:50

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:50 am