บมจ.ไทยออยล์เปิดเผยรายงานวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันในตลาดโลก ชี้การเปิดเผยจาก API ถึงสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง ฉุดราคาน้ำมันดิบลงต่อ
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ ธ.ค. ปรับลดลง 1.48 เหรียญฯ ปิดที่ 109.11 เหรียญฯ ขณะที่เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ธ.ค. ปรับลดลง 1.62 เหรียญฯ ปิดที่ 100.67 เหรียญฯ
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ณ วันที่ 11 ต.ค. 56 ปรับเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันลดปริมาณการกลั่นน้ำมันลงวันละ 0.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่บริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ปรับเพิ่มขึ้น 0.29 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังลดลงมากว่าคาดที่ 2.2ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังลดลงน้อยกว่าคาดที่ 1.3 ล้านบาร์เรล
- จำนวนผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน สิ้นสุดวันที่ 12 ต.ค. ปรับตัวลดลง15,000 ราย มาอยู่ที่ 358,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 330,000 ราย
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาฟิลาเดเฟียเผยผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรม เดือนต.ค. ปรับลดลงเป็น 19.8 จากระดับ 22.3 ในเดือนก่อนหน้า
- การเจรจาปัญหานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ที่เจนีวา เป็นไปอย่างราบรื่น โดยนักการทูตเผยว่าอิหร่านมีท่าทีพร้อมที่จะระงับการแปรรูปยูเรเนียม เพื่อบรรเทาความวิตกกังวลว่าการกระทำดังกล่าวอาจนำไปใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งนี้จะมีการหารืออีกรอบวันที่ 7-8 พ.ย. นี้
+ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามร่างกฎหมายยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาล และขยายเพดานหนี้เพิ่มอำนาจการกู้ยืมให้กระทรวงการคลัง บังคับใช้เป็นกฎหมายไปเรียบร้อยเมื่อเช้าวานนี้ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. 2557 และปรับเพิ่มเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 ก.พ. 2557
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดีความต้องการน้ำเข้าน้ำมันเบนซินจากอินโดนีเซียและเวียดนามลดลง เนื่องจากความต้องการภายในประเทศค่อนข้างเบาบาง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคยังคงซบเซา โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดในภูมิภาค มีแนวโน้มจะนำเข้าน้อยลงในเดือนหน้า หลังจากวันหยุดเฉลิมฉลองสิ้นสุดเทศกาลการถือศีลอด
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 100-106 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 108-114 เหรียญฯ จับตาการแก้ปัญหา Government Shutdown และปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะมีกำหนดเส้นตายกลางเดือนนี้ ส่วนคืนนี้ติดตามผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและจีดีพีไตรมาส 3/56 ของจีน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่
วันจันทร์: ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ
วันอังคาร: -
วันพุธ: ดัชนีราคาบ้านสหรัฐฯ
วันพฤหัสบดี: ดัชนีภาคการผลิต และดัชนีภาคการบริการสหภาพยุโรปและเยอรมนี อีกทั้งดัชนีราคาผู้ผลิตเยอรมนี และดัชนีภาคการผลิตจีน รวมไปถึงยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ
วันศุกร์: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน จำนวนใบอนุญาตสร้างบ้านใหม่ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ รวมไปถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนี
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- ติดตามรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ภายหลังจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯรายงานโดยสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 13 ล้านบาร์เรลในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
- จับตาผลตอบรับของตลาด หลังจากสหรัฐฯสามารถยุติภาวะ Government Shutdown และสามารถขยายเพดานหนี้ออกไปถึงต้นปีหน้า
- การประท้วงของคนงานโรงกลั่นน้ำมัน Grangemouth ในสก็อตแลนด์ ซึ่งสร้างความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว เนื่องจากโรงกลั่นดังกล่าว เป็นแหล่งพลังงานไอน้ำและไฟฟ้าให้กับหลุมน้ำมันของบริษัท บีพี ซึ่งเป็นหนึ่งในหลุมผลิตน้ำมันหลักของทะเลเหนือ
ข่าวเด่น