โดยนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ 1 นำเสนอเนื้อหา โดยมีสาระสำคัญ เกี่ยวกับประเภทความผิดให้นิรโทษกรรมการกระทำความผิดของบุคคลหรือประชาชนที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม การแสดงออก หรือความขัดแย้งทางการเมือง และรวมถึงผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 รวมถึงองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมา ที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2547 ถึง 8 ส.ค.2556 ทั้งนี้การนิรโทษกรรมดังกล่าวไม่รวมถึงการกระทำความผิดตามประมวลอาญา มาตรา 112
โดยฝ่ายพรรคฝ่ายค้านตั้งคำถามว่าเป็นการยกร่างเนื้อหาตามใบสั่ง และจงใจที่จะล้างคดีความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีซุกหุ้นที่ถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวหา และมีผลทำให้หน่วยงานตามกระบวนการยุติธรรม มีคำสั่งยึดทรัพย์ เป็นเงินรวม 4.6 หมื่นล้านบาท
หลังการอภิปรายฯ กรรมาธิการฯ ส่วนใหญ่เห็นชอบตามข้อเสนอของนายประยุทธ์ ที่ประชุม ฯได้ลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามรายละเอียดที่เสนอใหม่ โดยนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานกมธ. ด้วยคะแนน 18 เสียง ซึ่งเป็นกรรมาธิการฯ ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ยกเว้นนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เนื่องจากทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม นอกจากนั้นพบว่าพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ได้ยกมือสนับสนุนให้กับร่างมาตรา 3 ที่เสนอโดยนายประยุทธ์ด้วย
สำหรับเนื้อหาของมาตรา 3 ที่นำเสนอโดยนายประยุทธ์นั้น มีสาระสำคัญ คือ ให้นิรโทษกรรมการกระทำความผิดของบุคคลหรือประชาชนที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม, การแสดงออก หรือความขัดแย้งทางการเมือง และรวมถึงผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร 19กันยายน 2549 รวมถึงองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมา ที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2547 ถึง 8 สิงหาคม 2556 ทั้งนี้การนิรโทษกรรมดังกล่าวไม่รวมถึงการกระทำความผิดตามประมวลอาญา มาตรา 112
จากนั้นเข้าสู่ มาตรา 4 จนถึงมาตรา 7ซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้นายสามารถ ได้แจ้งว่า สำหรับกรรมาธิการฯ ที่สงวนความเห็นให้เสนอความเห็นป็นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ และสำหรับส.ส.ที่เสนอคำแปรญัตติ ขอนัดให้มาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ ในวันที่ 30 ต.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. และสั่งปิดการประชุมในเวลา 16.45 น.
นายสามารถ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ได้กำหนดให้สมาชิกที่ขอแปรญัตติได้มาเสนอคำแปรญัตติต่อ กมธ.วันที่ 30-31 ต.ค.นี้ คาดว่า ต้นเดือน พ.ย.น่าจะกลับเข้ามาสู่การพิจารณาในวาระ 2 ได้
ข่าวเด่น