YLG สรุปสภาวะตลาดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,312.13-1,315.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ13 อยู่ที่ 19,610 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,620 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ13 อยู่ที่ 663 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 663 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.12 น.ของวันที่ 4/11/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

แนวโน้มวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556
ราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนตัวลงประมาณ 3 % จากสัปดาห์ก่อนหน้าทั้งนี้ นักลงทุนปรับลดสถานการณ์ลงทุนในทองคำลง เนื่องจากมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดการณ์กันในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวขึ้นมากพอที่จะเปิดโอกาสให้เฟดสามารถปรับลดขนาด QE ลงได้ ความกังวลดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์และทรงตัวในระดับสูง หลังจากมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนตุลาคม ประกอบกับดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงหนุเพิ่มเติมเมื่อสกุลเงินยูโรร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ หลังจากทำสถิติดิ่งลงหนักที่สุดในรอบกว่า 1 ปีในสัปดาห์ที่ผ่าน เนื่องจากความกังวลว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ถูกกดดันให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนร่วงลงสู่ 0.7 % ต่อปีในเดือนตุลาคม ต่ำกว่าเป้าหมายที่อีซีบีตั้งไว้ที่ระดับต่ำกว่า 2 % เล็กน้อย และตัวเลขอัตราเงินเฟ้อนี้ก็ส่งผลให้คาดการณ์ว่า อีซีบีอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมกำหนดนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งกดดัยสกุลเงินยูโรให้อ่อนค่าลงและกดดันราคาทองคำเช่นกัน

เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำน่าจะดีดตัวขึ้นในลักษณะ technical rebound อาจมีโอกาสทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านไปได้ราคาทองคำจะดีดตัวต่อไปในบริเวณ 1,336 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นแนะนำนักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นโดยหาจังหวะทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไป และนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน
          
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้นเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับ 1,290 หรือ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,336 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป

          ทองคำแท่ง (96.50%)
          แนวรับ 1,300 (19,210บาท) 1,290 (19,060บาท) 1,280 (18,910บาท)
          แนวต้าน 1,326 (19,600บาท) 1,336 (19,750บาท) 1,347 (19,910บาท)

          GOLD FUTURES (GFZ13)
          แนวรับ 1,300 (19,400บาท) 1,290 (19,250บาท) 1,280 (19,100บาท)
          แนวต้าน 1,326 (19,780บาท) 1,336 (19,930บาท) 1,347 (20,100บาท)

          SILVER FUTURES (SVZ13)
          แนวรับ 21.50 (658 บาท) 21.10 (646 บาท) 20.85 (638 บาท)
          แนวต้าน 22.20 (680 บาท) 22.45 (688 บาท) 22.90 (702 บาท)