บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง วิเคราะห์ตลาดวันนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวน ตามประเด็นข่าวสารทางการเมืองระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ปิดบวกเล็กน้อย 0.88 จุด มาอยู่ที่ 1,405.91 จุด มูลค่าการซื้อขาย 32,285 ล้านบาท

ทั้งนี้ ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 อีก 2,849 ล้านบาท Short สุทธิใน Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 38 สัญญา และขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 7,888 ล้านบาท เงินทุนไหลออกจากประเด็นการเมือง และ SET INDEX ณ ปัจจุบันมี Valuation ที่แพง เมื่อเทียกับการเติบโตของกำไรสุทธิของตลาดหุ้นไทยในปีนี้

MBKET คงมุมมองต่อการลงทุนเป็น NEUTRAL เป็นวันที่ 6 แม้ว่าความผันผวนยังอยู่ในระดับสูง ตามข้อมูลข่าวสารทางการเมืองภายในประเทศ เข้ามาระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ณ วันนี้ สิ่งที่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศรอดูความชัดเจนได้แก่

1.    การเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภา หลังวุฒิสภา ไม่สามารถโหวตในวาระ 1 ของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้ทันตามเส้นตาย 18.00 น. วันที่ 11 พ.ย. อาจเห็นพัฒนาการที่มากขึ้น
2.    วุฒิสภา โหวตไม่รับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ด้วยเสียง 141 – 8 เสียงคืนวานนี้
3.    ท่าทีของรัฐบาล ต่อผลการตัดสินกรณีเขาพระวิหาร โดยศาลโลกวานนี้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายต่างให้ความเห็นเชิงบวกว่า แผนที่ในภาคผนวกที่ 1 ไม่สามารถนำมากล่าวอ้างได้ หรือพื้นที่ 4.6 ตร.กม. จากนี้ไปคาดว่า ไทย – กัมพูชา จะต้องกลับมาเจรจาต่อพื้นที่ที่มีประเด็นต่อไป
4.    รอความชัดเจนต่อร่างกฎหมาย มาตรา 190 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านวันที่ 20 พ.ย.
ช่วง 2-4 วันนี้ MBKET ให้น้ำหนักกับข้อที่ 1 เป็นสำคัญ พร้อมติดตามนัดประชุมพิเศษ 2 สภาพร้อมกันในวันที่ 13 พ.ย. เพื่อให้แนวทางแก้ไขปัญหาต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาพร้อมกัน

MBKET เสนอว่า ภาวะความผันผวนทางการเมือง บางช่วง SET INDEX ปรับฐานลงแรง อาจกลายเป็นจุดของการพิจารณาทยอยสะสม เพราะหากผ่านประเด็นการเมืองในรอบนี้ไปได้แล้ว ภาวะการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้  จะเห็นการฟื้นตัวที่เป็นบวก

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: MBKET แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” TRUE
Portfolio      HOLD: BTS/ IRPC/ TPIPL/ KKP/ LOXLEY/ TRUE/ AIT/ DEMCO/ ILINK/ TASCO/ AP/ SVOA/ PTTGC/ PTT/ PTTEP/ MFEC/ PSL/ TTA/ KCE/ TOP
Speculative Buy: TRUE
Technical View    แนวรับ 1395, 1380 จุด แนวต้าน 1420 +/- จุด ตลาดน่าจะยังแกว่งตัวผันผวน แต่มีแนวโน้มแกว่งตัวเหนือระดับ 1400 เพื่อรักษาภาพบวกระยะสั้น

กลยุทธ์การลงทุน วันนี้ เข้าเก็งกำไรหุ้น High Beta ที่ปรับตัวลงมาแรงจากช่วง 1-2 วันทำการที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ แกว่งตัวในแดนบวก และลบ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น +1.3% จากตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัด เดือน ก.ย. เกินดุลมากกว่าคาด และ HK +1.4% หลังยอดขายรถยนต์ในจีน เดือน ต.ค.ออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ประเทศในกลุ่ม TIPs ได้แก่ ฟิลิปปินส์ -1.4% จากความเสียหายของพายุไห่เยี่ยน และอินโดนีเซีย -0.8%
ขณะที่ตลาดหุ้นไทย แกว่งตัวผันผวนมากโดยเปิดตัวลดลงถึง 22 จุด ที่ 1,383 จุด และทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ 1,379 จุด อย่างไรก็ตาม SET INDEX ดีดกลับในรอบบ่ายหลังวิปรัฐบาลเสนอให้ใช้มาตรา 179 เพื่อเปิดประชุมระหว่าง 2 สภาในวันที่ 13 พ.ย. เพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้ไขวิกฤติทางการเมือง จึงส่งผลให้ตลาดปิดในแดนบวก เพิ่มขึ้น 0.88 จุด หรือ +0.06% ที่ 1,405.91 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.22 หมื่นล้านบาท
หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้น ได้แก่ อาหาร +0.9%, สื่อสาร +0.9%, โรงพยาบาล +0.6% และขนส่ง +0.5% ขณะที่กลุ่มที่ปรับตัวลง ได้แก่ สื่อและสิ่งพิมพ์ -0.8%, ที่ดิน -0.6% และแพคเกจจิ้ง -0.5%

ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นในเอเชียเช้าวันนี้ (7.30 น.) เปิดบวกทุกตลาด สอดคล้องกับตลาดหุ้น DJIA คืนวานนี้ และเป็นเพียงการแกว่งตัวในกรอบแคบเท่านั้น
MBKET คงมุมมองต่อการลงทุน “NEUTRAL” วันที่ 6 พร้อมกับความผันผวนระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย เช่นเดียวกับ 2 วันทำการก่อนหน้า ขึ้นอยู่กับข้อมูลและประเด็นต่างๆ ทางด้านการเมืองที่เข้ามา ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ณ ปัจจุบัน ดูจะมีน้ำหนักน้อยกว่ามาก ทั้งนี้ MBKET ให้น้ำหนักกับการท่าทีของรัฐบาล และ การเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภา มากที่สุดในช่วง 2-3 วันจากนี้ไป ขณะที่กรณีศาลโลกนั้น มีน้ำหนักผ่อนคลายลงชัดเจน

ดังนั้น นักลงทุนระยะกลางถึงยาว MBKET ยังคงแนะนำถือพอร์ต การลงทุน พร้อมทยอยสะสมหุ้นหลักเพิ่มเติม หาก SET INDEX หลุดแนว 1,400 จุด เพราะหากการเมืองคลี่คลายลงในเชิงบวก คาดว่าจะเกิดการฟื้นตัวของ SET INDEX เด่น โดยยังคงยืนยันหุ้นที่น่าสนใจสะสม เช่น KTB หรือ KBANK, TASCO, TPIPL, LH, AIT เป็นต้น

ส่วนนักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น MBKET แนะนำให้ เข้าซื้อเก็งกำไร หาก SET INDEX เกิดการปรับตัวลงแรงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย เพราะการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาที่พัฒนาการในอัตราเร่ง บวกกับ วิปรัฐบาลเรียกประชุมด่วน 2 สภา ในวันที่ 13 พ.ย.นี้ น่าจะเห็นทางออกทางการเมืองที่มีนัยยะสำคัญได้