เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ธ.ค. ปรับลดลง 0.12 เหรียญฯ ปิดที่ 93.76 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ส่งมอบ ธ.ค. ปรับเพิ่ม 1.42 เหรียญฯ ปิดที่ 108.54 เหรียญฯ

 

+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่คาดว่าตลาดน้ำมันโลกมีแนวโน้มที่จะตึงตัวมากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าเนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่จะปรับเพิ่มขึ้นในฤดูหนาว รวมทั้งเหตุการณ์ความไม่สงบที่กระทบปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในหลายประเทศโดยเฉพาะในลิเบียและอิรัก โดยล่าสุดในเดือนต.ค. ปริมาณผลิตน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปกปรับลดลง 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 29.89 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

 

+ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) นางเจเน็ต เยลเลน แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารวุฒิสภาสหรัฐว่า เฟดจำเป็นต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งผลให้ตลาดคาดว่า FED จะยังไม่ชลอมาตรการ QE ในเร็ววัน 

 

- อย่างไรก็ดีตัวเลข GDP ไตรมาส 3 / 2556 ของสหภาพยุโรปขยายตัวเพียง 0.1% ต่ำกว่าการขยายตัวที่ 0.3% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปว่าอาจช้ากว่าที่คิด ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงการซื้อขายวานนี้

 

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุดสัปดาห์ที่แล้วปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2.6 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ 388 ล้านบาร์เรล โดยเฉพาะที่บริเวณคุชชิ่ง โอกลาโฮม่า (ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบ WTI) ที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับขึ้นกว่า 1.7 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ประมาณ 38 ล้านบาร์เรล

 

- นอกจากนี้ ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานในสหรัฐฯ อยู่ที่ 339,000 คนมากกว่าคาดการณ์ที่ 330,000 คน แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานในสหรัฐฯยังค่อนข้างเปราะบางและการฟื้นตัวยังเป็นไปแบบช้าๆ รวมทั้งตัวเลขดุลการค้าเดือนก.ย. ของสหรัฐฯปรากฎว่าขาดดุลที่ 41.8 พันล้านเหรียญฯ แย่กว่าคาดที่ขาดดุล 39.1 พันล้านเหรียญฯ
 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯที่ปรับสูงขึ้นหลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลงต่อเนื่องรวมทั้งข่าวที่โรงกลั่นฯในไต้หวันจะไม่ส่งออกน้ำมันเบนซินออกมาเพิ่มเติมในเดือนธ.ค.

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ได้รับแรงหนุนจากปริมาณผลิตน้ำมันดีเซลจากญี่ปุ่นที่ปรับตัวลดลงหลังโรงกลั่นน้ำมันปรับกระบวนการผลิต เน้นผลิตน้ำมันทำความร้อน (Kerosene) แทนน้ำมันดีเซล

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 93-100 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 104 -110 เหรียญฯ คืนนี้ติดตามการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ  และผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์ค รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรป

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันศุกร์: การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ  และผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์ค รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรป

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่

วันจันทร์: -

วันอังคาร: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมัน

วันพุธ: ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ยอดขายบ้านมือสอง และยอดสินค้าคงคลังสหรัฐฯ รวมไปถึงดัชนีราคาผู้ผลิตเยอรมนี

วันพฤหัสบดี: ดัชนีภาคการผลิต ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และเยอรมนี อีกทั้งผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟียสหรัฐฯ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป และดัชนีภาคการผลิตจีน

วันศุกร์: จีดีพีไตรมาส 3/2556 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนี 

 

- ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะประกาศในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินสหรัฐฯ โดยล่าสุดว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคนใหม่นาง เจเน็ท เยลเลน ได้ให้ถ้อยแถลงในการสนับสนุนมาตรการ QE ต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัว

- ภาวะอุปทานตึงตัวในลิเบีย โดยกลุ่มผู้ประท้วงในลิเบียฝั่งตะวันตกเตรียมก่อตั้งบริษัทผลิตน้ำมันเพื่อทำการส่งออกน้ำมันเอง ล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียอยู่ที่ 0.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน 

- การเจรจาโครงการนิวเคลียร์ระหว่างชาติมหาอำนาจและอิหร่านที่จะมีขึ้นอีกครั้ง ณ กรุงเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 20 พ.ย. หลังจากการเจรจาครั้งก่อนหน้าในช่วงต้นเดือนเป็นเวลา 3 วัน ทุกฝ่ายยืนยันว่ามีความคืบหน้ามากขึ้น หากแต่ยังไม่มีข้อตกลงใดๆเกิดขึ้น

- ผลจีดีพีไตรมาส 3/2556 เยอรมนี ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป โดยคาดการณ์ว่าจีดีพีไตรมาส 3/2556 จะออกมาอยู่ที่ 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นการขยายตัวในระดับเดียวกับไตรมาสก่อนหน้า