ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์ มองแนวโน้มน้ำมันราคาลด หลังFED ส่งสัญญาณเศรษฐกิจดีขึ้น


 

 

"น้ำมันดิบลดหลังจาก FED ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจดีขึ้น"

เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ธ.ค. ปรับลดลง 0.81 เหรียญฯ ปิดที่ 93.03 เหรียญฯ และเบรนท์ส่งมอบ ม.ค. ปรับลดลง 0.03 เหรียญฯ ปิดที่ 108.47 เหรียญฯ
 
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเนื่องจากตลาดกำลังจับตามองการส่งสัญญาณเรื่องการลดการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากมีการให้สัมภาษณ์ของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) สาขานิวยอร์ค ว่านายวิลเลียมมีความหวังว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น  ขณะเดียวกัน นายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) สาขาฟิลาเดลเฟีย ให้สัมภาษณ์ในทิศทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นและตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้นนั้น น่าจะส่งสัญญาณให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ควรจำกัดวงเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรและควรหยุดโปรแกรมการกระตุ้นเศรษกิจเมื่อถึงวงเงินนั้น
 
- ตัวเลขกำลังการผลิตน้ำมันดิบของประเทศซาอุดิอาระเบียในเดือน ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2005 เป็นต้นมา ขณะเดียวกันประเทศซาอุดิอาระเบียมีปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศช่วงหน้าร้อนลดลง 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้มีการส่งออกน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นสูงสุด 4 เดือนติดต่อกันตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา
 
+ ยังคงมีความกังวลต่อเนื่องต่อสถาณการณ์ความตึงเครียดในลิเบีย เนื่องจากกำลังการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียปรับลดลงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา หลังจากมีการสู้รบระหว่างทหารและผู้ประท้วงทั่วทั้งประเทศ
 
+/- นักลงทุนยังคงจับตามองการเจรจาเพื่อหาข้อยุติเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่จะประชุมในวันพุธนี้ ระว่างอิหร่านและประเทศมหาอำนาจ ตลาดจับตาว่าจะมีการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรปัจจุบันส่งผลให้อิหร่านไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบได้ปริมาณกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ แต่อย่างไรก็ตามอุปทานจากไต้หวันและเกาหลีใต้ยังคงปรับลดลงเนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลง ขณะเดียวกันอุปสงค์จากอินโดนีเซียยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
 
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงจากประเทศอินโดนีเซียและมีปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์อยู่ในระดับสูง ขณะที่อุปทานจากไต้หวันปรับเพิ่มขึ้น
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 93-100 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 104 -110 เหรียญฯ จับตาการประชุมเรื่องนิวเคลียร์อิหร่านและรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงกลางสัปดาห์ รวมถึงตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ และจีนที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ พร้อมติดตามดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมันในคืนนี้
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันอังคาร: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมัน
วันพุธ: ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ยอดขายบ้านมือสอง และยอดสินค้าคงคลังสหรัฐฯ รวมไปถึงดัชนีราคาผู้ผลิตเยอรมนี
วันพฤหัสบดี: ดัชนีภาคการผลิต ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและเยอรมนี อีกทั้งผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟียสหรัฐฯ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป และดัชนีภาคการผลิตจีน
วันศุกร์: จีดีพีไตรมาส 3/2556 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนี 
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะประกาศในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินสหรัฐฯ โดยล่าสุดว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคนใหม่นาง เจเน็ท เยลเลน ได้ให้ถ้อยแถลงในการสนับสนุนมาตรการ QE ต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัว
- ภาวะอุปทานตึงตัวในลิเบีย โดยกลุ่มผู้ประท้วงในลิเบียฝั่งตะวันตกเตรียมก่อตั้งบริษัทผลิตน้ำมันเพื่อทำการส่งออกน้ำมันเอง ล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียอยู่ที่ 0.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน 
- การเจรจาโครงการนิวเคลียร์ระหว่างชาติมหาอำนาจและอิหร่านที่จะมีขึ้นอีกครั้ง ณ กรุงเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 20 พ.ย. หลังจากการเจรจาครั้งก่อนหน้าในช่วงต้นเดือนเป็นเวลา 3 วัน ทุกฝ่ายยืนยันว่ามีความคืบหน้ามากขึ้น หากแต่ยังไม่มีข้อตกลงใดๆเกิดขึ้น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 พ.ย. 2556 เวลา : 11:13:16

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:15 am