สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,242.76-1,249.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ13 อยู่ที่ 18,920 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 290 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,190 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ13 อยู่ที่ 663 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 663 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.28 น.ของวันที่ 21/11/13)
แนวโน้มวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556
ราคาทองคำอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 29-30 ตุลาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดจำนวนมากระบุย้ำถึงโครงการซื้อสินทรัพย์ในปัจจุบันที่ขึ้นอยู่กับแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ ดังนั้น หากภาวะเศรษฐกิจสนับสนุน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ก็อาจตัดสินใจชะลออัตราการซื้อพันธบัตรในการประชุมครั้งต่อๆไปของเฟด ทั้งนี้ แรงขายในตลาดทองคำเกิดจากการคาดการณ์ว่า หากการขยายตัวทางเศรษฐกิจสนับสนุนเพียงพอ เฟดอาจตัดสินใจที่จะปรับลดโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลาอันใกล้ หรือ การประชุมครั้งต่อไปใน วันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีนักลงทุนบ้างส่วนเชื่อว่าเฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงโครงการซื้อพันธบัตรก่อนสิ้นปีนี้ ประกอบกับผลสำรวจของรอยเตอร์ในช่วงที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเฟด จะเริ่มลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงภายในเดือนมีนาคม ซึ่งความเชื่อดังกล่าวส่งผลให้มีแรงช้อนซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามา แต่การขยับขึ้นของราคาทองคำค่อนข้างจำกัด ส่วนหนึ่งยังคงได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการที่สกุลเงินยูโรร่วงลงจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำลังพิจารณาการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบเพื่อหนุนเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย ทั้งนี้ อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ลงสู่ระดับ -0.1% จากระดับ 0% ในปัจจุบัน แรงขายในสกุลเงินยูโรและราคาทองคำเพิ่มขึ้น
เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,266-1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยทางเทคนิคเพื่อใช้เป็นปัจจัยในการชี้นำทิศทางราคาทองคำ โดยนักลงทุนควรติดตามทิศทางของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,256 หรือ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้งและ เข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,235 หรือ 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน พร้อมวางแผนการลงทุนโดยกำหนดจุดตัดขาดทุนและทำกำไรให้ชัดเจน
ทองคำแท่ง (96.50%
แนวรับ 1,235 (18,550บาท) 1,225 (18,410บาท) 1,215 (18,250บาท)
แนวต้าน 1,256 (18,870บาท) 1,266 (19,020บาท) 1,276 (19,180บาท)
GOLD FUTURES (GFZ13)
แนวรับ 1,235 (18,740บาท) 1,225 (18,590บาท) 1,215 (18,440บาท)
แนวต้าน 1,256 (19,060บาท) 1,266 (19,210บาท) 1,276 (19,360บาท)
SILVER FUTURES (SVZ13)
แนวรับ 19.60 (653 บาท) 19.35 (646 บาท) 18.90 (631 บาท)
แนวต้าน 20.30 (676 บาท) 20.65 (687 บาท) 20.90 (703 บาท)
ข่าวเด่น