นายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงความคืบหน้าในการไต่สวนนายบุญทรง เตริยาภิรมย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.พาณิชย์ กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวว่า การไต่สวนได้ความว่า การเจรจาที่อ้างว่า เป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีระหว่างรัฐบาลกับผู้แทนหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนจำนวน 2 หน่วยงาน ปรากฎว่า พยานหลักฐานยังไม่มีน้ำหนัก เพียงให้เห็นได้ว่า เป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐและพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลอื่นมีส่วนร่วมกระทำความผิดในโครงการดังกล่าว
ซึ่งยังไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหามาแต่เดิม ดังนั้น คณะกรรมการป.ป.ช. จึงมีมติให้ขยายการไต่สวนเพิ่มไปยังบุคคลเพิ่มเติมอีก 5 กลุ่ม

การไต่สวนยังพบว่า การกำหนดให้เป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐก็เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันเรื่องราคา ทำให้เกิดความเสียหายจากการขายในราคาที่ต่ำกว่าตลาด โดยนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 ถึง มิถุนายน 2556 มีปริมาณส่งมอบข้าวไปยังจีนทุกรายเพียง 375,000 ตันเศษ จากปริมาณที่ส่งมอบตามสัญญาจำนวน 4,800,000 ตัน ซึ่งกรมศุลกากรยืนยันว่า ในห้วงเวลาดังกล่าวไม่มีข้าวส่งออกโดยผ่านพิธีการศุลกากรแต่อย่างใด

ทั้งนี้นายวิชาเปิดเผยว่า มีการอ้างว่าไม่ใช่เป็นการส่งออก แต่เป็นการซื้อหน้าคลังสินค้า ดังนั้น คณะอนุกรรมการไต่สวนจะเร่งไต่สวนเพื่อพิจารณว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีกหรือไม่ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหามีส่วนร่วมกระทำความผิดต่อไป