เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ม.ค. ปรับลดลง 1.07 เหรียญฯ ปิดที่ 97.44 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์เดือน ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.32 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 109.70 เหรียญฯ
 

 

+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากที่ตลาดยังมีความกังวลว่าลิเบียจะสามารถกลับมาส่งออกได้น้ำมันดิบภายในวันที่ 15 ธ.ค. ได้หรือไม่ หลังจากมีการเรียกร้องโดยกลุ่มผู้ประท้วงที่ต้องการส่วนแบ่งจากการส่งออกเพิ่ม ซึ่งผู้ประท้วงมีการขู่ว่าจะปิดทำท่าส่งออกน้ำมันดิบ 3 แห่ง กำลังการการส่ง 600,000 บาร์เรลต่อวันอีกครั้ง

 

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(EIA) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลัง ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ธ.ค. 56  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.7 ล้านบาร์เรล สูงกว่าการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล

 

+ ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 10.6 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 375.20 ล้านบาร์เรล เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องสัปดาห์ที่สองซึ่งมากกว่าที่คาดว่าจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลงมากถึง 950,000 บาร์เรลต่อวันและโรงกลั่นปรับเพิ่มกำลังการกลั่น 0.2% มาอยู่ที่ 92.7% ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของช่วงเวลานี้ ทั้งนี้เพื่อคงปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นปีให้อยู่ในระดับต่ำ 

 

+ อย่างไรก็ตาม รายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ณ วันที่ 10 ธ.ค. 56 รายงานตัวเลขคาดการณ์ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันดิบสำหรับปีนี้ จะปรับตัวตัวเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากกว่าการคาดการณ์เดิม 145,000 บาร์เรลต่อวัน และสำหรับปี 57 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 92.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้า 110,000 บาร์เรลต่อวัน โดยความต้องการใช้น้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณอุปทานที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแผนการส่งออกของไต้หวันในเดือน ม.ค.

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสวนทางกลับราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยกดดันจากปริมาณอุปทานน้ำมันดีเซลในสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอุปทานที่เข้ามาจากตะวันออกกลางและอินเดีย

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 92 - 100 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 108 -114 เหรียญฯ คืนนี้ติดตามการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกและยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ รวมทั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป

 

 ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันพฤหัสบดี: ยอดค้าปลีก และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ รวมทั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป

วันศุกร์: ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ

 

- กำลังการผลิตของโรงกลั่นหลายแห่งในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและการเก็บปริมาณน้ำมับดิบคงคลังลดลงให้อยู่ในระดับต่ำในช่วงสิ้นปี  จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง 

- ลิเบียจะกลับมาเปิดใช้ท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบได้อีกครั้งตามที่คาดไว้หรือไม่ หลังล่าสุดการผลิตน้ำมันลดลงสู่ระดับ 250,000 แล้วในเดือน พ.ย. 

- จับตาการเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone ที่จะสามารถขนส่งน้ำมันดิบจากคุชชิ่งไปยังโรงกลั่นบริเวณ Port Arthur รัฐเท็กซัสได้ราว 700,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 57 โดยท่อนี้คาดว่าจะช่วยลดปริมาณน้ำมันคงคลังที่บริเวณคุชชิ่งลง