เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.06 เหรียญฯ ปิดที่ 97.50 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์เดือน ม.ค. ปรับลดลง 1.03 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 108.67 เหรียญฯ

 

- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงหลังจากการประกาศของนายกรัฐมนตรีของลิเบีย นายอาลี ซีดาน ว่ารัฐบาลคาดการณ์ว่าท่าเรือส่งออกน้ำมันของลิเบีย 3 แห่งจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ซึ่งการปิดท่าเรือส่งออกน้ำมันของลิเบียตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมาส่งผลให้ปริมาณส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียตกลงต่ำสุดตั้งแต่ช่วงสงครามกลางเมืองในปี 2554 ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้นในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา

 

- ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาในช่วงหลังปรับตัวดีขึ้น จึงทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ลงเร็วกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์หน้า

 

- OPEC จะปรับเพิ่มปริมาณน้ำมันส่งออกขึ้น 380,000 บารร์เรลต่อวันในช่วง 4 สัปดาห์นี้ จนถึงวันที่ 28 ธ.ค. ซึ่งจะทำให้ปริมาณการส่งน้ำมันออกเฉลี่ยมีมากถึง 24.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันดิบออกสู่ตลาดมากขึ้น รวมไปถึงมีการตกลงระหว่างการประชุม OPEC ที่เวียนนาในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า 12 สมาชิกเห็นด้วยที่จะยังคงระดับการส่งออกน้ำมันดิบที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557

 

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีโครงการสร้างท่อขนส่งน้ำมันจากคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบมายังโรงกลั่นของสหรัฐฯ แถบ Gulf Coast แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีภาพของความต้องการน้ำมันในตลาดยังไม่ชัดเจน

 

- ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 68,000 ราย มาอยู่ที่ 368,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 320,000 ราย

 

+ ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ สำหรับเดือน พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.6% เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯมีการขยายตัว และการปรับเพิ่มขึ้นนี้เป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปสงค์จากญี่ปุ่นลดลง แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีอุปสงค์จากสิงคโปร์และเวียดนาม

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากไม่สามารถส่งออกน้ำมันไปทางยุโรปได้ และมีอุปสงค์ในภูมิภาคลดลง ขณะเดียวกันมีอุปทานจากญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และอินเดีย เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 92 - 100 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 108 -114 เหรียญฯ จับตาการประกาศตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าที่จะส่งผลต่อการลดทอน QE  รวมถึงจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันนี้

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันศุกร์: ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่

วันจันทร์: ดัชนีภาคการผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ และดัชนีภาคการผลิตจีน รวมไปถึงดัชนีภาคการผลิต และดัชนีภาคการบริการสหภาพยุโรป

วันอังคาร: ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ และดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรป

วันพุธ: ยอดการขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ

วันพฤหัส: ยอดขายบ้านมือสอง และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ 

วันศุกร์: จีดีพีไตรมาส 3/2556 ของสหรัฐฯ (Final) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป

 

- การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 17 – 18 ธ.ค. นี้ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าจะมีการหารือเรื่องการลดวงเงินที่ใช้ในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล (QE4) หลังล่าสุดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขภาคการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นมาก

- การกลับมาเปิดใช้ท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียอีกครั้งในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งยังคงมีความไม่แน่นอนว่าจะเกิดใช้การได้หรือไม่ หลังล่าสุดกลุ่มผู้ประท้วงขู่ว่าจะไม่ยอมเปิดท่าเรือรวมถึงอาจมีการปิดเพิ่มเติมหากการเจรจากับรัฐบาลไม่เป็นผลสำเร็จ

- การประกาศจีดีพีสหรัฐฯ ไตรมาส 3/56 (ครั้งที่ 3) ในวันที่ 20 ธ.ค. นี้ ที่คาดว่าจะออกมาดี หลังตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ออดมาดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่จะยังปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการใช้ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในฤดูหนาว 

- การเปิดใช้ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone อย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 57 ที่จะขนส่งน้ำมันดิบจากคุชชิ่งไปยังโรงกลั่นบริเวณรัฐเท็กซัสได้ราว 700,000 บาร์เรลต่อวัน