บมจ.ไทยออยล์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน
"ตัวเลข GDP สหรัฐฯ ความวุ่นวายในลิเบียและซูดานใต้ หนุนราคาน้ำมันดิบขึ้นต่อ"
เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.28 เหรียญฯ ปิดที่ 99.32 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์เดือน ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 1.48 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 111.77 เหรียญฯ
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ปี 2556 (ประกาศครั้งสุดท้าย) ที่ออกมาดีกว่าคาดและขยายตัวมากที่สุดในรอบ 2 ปีที่ 4.1% มากกว่าประกาศครั้งที่แล้วที่ 3.6% โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายทางธุรกิจที่ดีกว่าคาด รวมทั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ขยายตัวดีที่กว่า 2%
+ เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ขยายตัวดีส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันขยายตัวมากเช่นกัน โดยตัวเลขล่าสุดของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) เปิดเผยว่าในช่วงสัปดาห์ที่แล้วความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯพุ่งขึ้นกว่า 13% มาอยู่ที่ประมาณ 21 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังได้รับแรงหนุนจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในลีเบียที่ยังดำเนินต่อ โดยปัจจุบันลิเบียส่งออกน้ำมันดิบเหลือวันละ 110,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือน ก.ค.ที่ส่งออกมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ล่าสุดรัฐบาลกลางยังไม่สามารถตกลงส่วนแบ่งรายได้กับกองกำลังที่ควบคุมท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบทางตะวันออกของประเทศได้ซึ่งมีกำลังการส่งออกน้ำมันดิบกว่า 600,000 บาร์เรลต่อวัน
+ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากเหตุความรุนแรงรอบใหม่ในซูดานใต้เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่าร้อยคน ส่งผลให้นานาชาติกังวลถึงปริมาณน้ำมันดิบจำนวนกว่า 245,000 บาร์เรลต่อวันที่ซูดานใต้ผลิตและส่งออก ซึ่งล่าสุดมีสัญญาณการอพยพของคนงานบริษัทน้ำมัน China National Petroleum Corp ที่มีหลุมน้ำมันในซูดานใต้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการนำเข้าจากอินโดนีเซียที่มีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงค์โปร์ในสัปดาห์ล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์มาอยู่ที่ 11 ล้านบาร์เรลกดดันให้ราคาไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้มากนัก
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ เนื่องจากมีการส่งออกน้ำมันดีเซลจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และมาเลเซียเข้ามาในตลาดสิงคโปร์จำนวนมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 94 - 102 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 108 -114 เหรียญฯ จับตาความรู้สึกผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะประกาศในวันนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่
วันจันทร์: ความรู้สึกผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
วันอังคาร: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ
วันพุธ: วันหยุดคริสต์มาสในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
วันพฤหัส: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ในขณะที่เป็นวันหยุดธนาคารของสหภาพยุโรป
วันศุกร์: -
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- ทิศทางการปรับกลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนต่างๆหลังธนาคารกลางสหรัฐฯตัดสินใจชะลอมาตรการ QE ในการประชุมครั้งล่าสุด รวมทั้งทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่จะยังปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการใช้ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในฤดูหนาว
- การเปิดใช้ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone อย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 57 ที่จะขนส่งน้ำมันดิบจากคุชชิ่งไปยังโรงกลั่นบริเวณรัฐเท็กซัสได้ราว 700,000 บาร์เรลต่อวัน
ข่าวเด่น