เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ม.ค. ปรับลดลง 0.41 เหรียญฯ ปิดที่ 98.91 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์เดือน ก.พ. ปรับลดลง 0.21 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 111.56 เหรียญฯ

 

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับลดลงท่ามกลางปริมาณซื้อขายเบาบางก่อนเข้าสู่วันหยุดคริสต์มาส เนื่องจากนักลงทุนได้ขายน้ำมันดิบเพื่อทำกำไรหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันในช่วง 3 วันที่ผ่านมา

 

+ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ในซูดานใต้ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยกลุ่มกบฎอ้างว่าได้ยึดแหล่งขุดเจาะน้ำมันสำคัญในรัฐยูนิตี้ซึ่งเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศได้แล้ว และล่าสุด บริษัทน้ำมัน China National Petroleum Corp ได้เตรียมอพยพคนงานออกจากซูดานใต้ ส่งผลให้นานาชาติกังวลว่าเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวอาจส่งผลต่อการผลิตน้ำมันของซูดานใต้ซึ่งมีปริมาณกว่า 245,000 บาร์เรลต่อวัน

 

+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังได้รับแรงหนุนจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในลีเบียที่ยังไม่คลี่คลาย ล่าสุดรัฐบาลกลางยังไม่สามารถตกลงส่วนแบ่งรายได้กับกองกำลังที่ควบคุมท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบทางตะวันออกของประเทศได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันลิเบียส่งออกน้ำมันดิบเหลือเพียงวันละ 110,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือน ก.ค.ที่ส่งออกมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

+ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงส่งสัญญาณแข็งแกร่ง ล่าสุด ตัวเลขความรู้สึกผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประจำเดือนธ.ค. ปรับตัวสูงสุดในรอบ 5 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 82.5 นอกจากนี้ ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังให้สัมภาษณ์ถึงการปรับเพิ่มมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นอีกด้วย

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับความต้องการที่จะปรับเพิ่มขึ้นในเดือนม.ค.นี้ อย่างไรก็ดีปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงค์โปร์สัปดาห์ล่าสุดปรับเพิ่มขึ้น 16% มาอยู่ที่ 11 ล้านบาร์เรลซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ กดดันให้ราคาไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้มากนัก

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากศรีลังกา และเวียดนาม

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 94 - 102 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 108 -114 เหรียญฯ จับตาความรู้สึกผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะประกาศในวันนี้

 

 ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่

วันอังคาร: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ

วันพุธ: วันหยุดคริสต์มาสในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

วันพฤหัส: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ในขณะที่เป็นวันหยุดธนาคารของสหภาพยุโรป

วันศุกร์: -

 

- ทิศทางการปรับกลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนต่างๆหลังธนาคารกลางสหรัฐฯตัดสินใจชะลอมาตรการ QE ในการประชุมครั้งล่าสุด รวมทั้งทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่จะยังปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการใช้ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในฤดูหนาว 

- การเปิดใช้ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone อย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 57 ที่จะขนส่งน้ำมันดิบจากคุชชิ่งไปยังโรงกลั่นบริเวณรัฐเท็กซัสได้ราว 700,000 บาร์เรลต่อวัน