คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) จัดการประมูลฯ ดิจิตอลทีวี เป็นวันที่ 2 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประมูลในวันนี้(27ธ.ค.) โดยจะเป็นการประมูลช่องข่าวสารสาระ 7 ช่อง และช่องรายการเด็ก 3 ช่อง รวมทั้งหมด 10 ช่อง โดยมีผู้เข้าประมูล 16 ราย แบ่งเป็นช่องข่าว 10 ราย และช่องเด็ก 6 ราย ราคาเริ่มต้นที่ 220 ล้านบาท และ 140 ล้านบาท
สำหรับในวันแรก(26ธ.ค.) การประมูลทีวีดิจิตอลช่องความคมชัดสูง หรือไฮเดฟฟิเนชั่น และช่องความคมชัดมาตรฐาน หรือสแตนดาร์ดเดฟฟิเนชั่นรวม 14ใบอนุญาต โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. สิ้นเมื่อเวลา 18.00น. โดยมีมูลค่าการประมูลรวมทั้งสิ้น 39,650ล้านบาท มีผู้ชนะการประมูล 14ราย
ทั้งนี้ในจำนวนผู้ที่ชนะการประมูลเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับใบอนูญาตช่องทีวีดิจิตอลไฮเดฟฟิเนชั่น 7บริษัท คือ บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย ในเครือช่อง 3, บริษัท บางกอกมีเดีย แอนด์บรอดคาสติ้ง ในกลุ่มปราสาททองโอสถ, ช่อง 7, บริษัท ทริปเปิลวี บรอดคาส ในเครือหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, อสมท, บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น และบริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัลทีวี ในเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่
ส่วนประเภทช่องสแตนดาร์ดเดฟฟิเนชั่น มี 7บริษัท คือ บริษัท ไทยบรอดคาสติ้ง ในเครือเวิร์คพ้อย, บริษัท ทรูดีดีที ในเครือทรู, บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัล ทีวีในเครือแกรมมี่, บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย ในเครือช่อง 3, บริษัท อาร์.เอส. เทเลวิชั่น, บริษัท โมโน บรอดคาซท์ และบริษัท แบงคอก บิสสิเนส บรอดแคสติ้งในเครือเนชั่นกรุ๊ป
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)กล่าวว่า ผู้ที่ชนะการประมูลวันแรก เป็นผู้มีสิทธิ์ในการใช้คลื่นความถี่ ส่วนผู้ที่ไม่ชนะการประมูลก็สามารถเป็นผู้ผลิตเนื้อหาป้อนรายการทีวีได้เช่นกัน ส่วนราคาประมูลยอมรับว่าสูงกว่าที่ กสทช. ประเมินไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท ในช่องความคมชัดมาตรฐาน แต่มั่นใจว่าจะไม่กระทบการประกอบธุรกิจ เนื่องจากเป็นการวางแผนธุรกิจของผู้ประกอบการมาแล้วก่อนการประมูล สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ในวันที่ 6 มกราคม 2557 รับรองผู้มีสิทธิ์ได้ใบอนุญาต พร้อมอนุมัติออกใบอนุญาต และคาดว่าจะสามารถออกอากาศได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2557
ข่าวเด่น