บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์นี้ (6-10 มกราคม 2557) น้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบที่ลดลง จับตาการกลับมาเปิดใช้ท่าเรือในลิเบียและการเจรจาพักรบในซูดานใต้
ทั้งนี้ ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 104 –110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 92 - 100 เหรียญฯ
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 6 - 10 ม.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบที่ลดลง โดยตลาดเฝ้าจับตาการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของลิเบีย และความคืบหน้าของการเจรจาสันติภาพในเอธิโอเปียเพื่อหาข้อสรุปของความขัดแย้งในซูดานใต้ รวมถึงการเจรจาระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตก 6 ชาติที่ดูมีท่าทีจะดีขึ้น รวมถึงรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าอาจปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งหลังผ่านช่วงปลายปีซึ่งมีการเก็บสต๊อกน้ำมันดิบในระดับต่ำเพื่อเหตุผลทางการเงินถือเป็นปัจจัยกดดันราคา
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
•ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียคาดว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังกลุ่มผู้ประท้วงที่หลุมน้ำมัน El Sharara ทางตะวันตกของประเทศกำลังผลิตราว 350,000 บาร์เรลต่อวัน ยินยอมที่จะยุติหลังประท้วงมาเป็นเวลากว่า 5 เดือน ส่งผลให้ตลาดคาดว่า การส่งออกน้ำมันดิบจากลิเบียจะเพิ่มขึ้นเป็น 600,000 บาร์เรลต่อวัน ใน 2-3 วันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังคงคาดหวังว่าการชุมนุมปิดท่าเรือหลักอีกแห่งทางตะวันออกของประเทศ กำลังส่งออก 110,000 บาร์เรลต่อวัน จะยุติลงและทำให้ท่าเรือกลับมาเปิดใช้ในเร็วๆ นี้ด้วย
•สถานการณ์ความรุนแรงในซูดานใต้ หลังประธานาธิบดี ซัลวา คีอีร์ แห่งประเทศซูดานใต้ ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 2 รัฐ ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบรุนแรงระหว่างกองทัพฝ่ายรัฐบาลและกบฎ ก่อนที่การเจรจาสันติภาพระหว่างฝ่ายรัฐบาลและกบฏจะเริ่มขึ้นที่ประเทศเอธิโอเปียในวันที่ 2 ม.ค. 57 เพื่อยุติเหตุความรุนแรงซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 1,000 ราย และทำให้ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบจากซูดานใต้ลดลงกว่า 50,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาร์เรลต่อวัน
•ท่าทีของอิหร่านในการเริ่มปฏิบัติตามข้อตกลงยุติโครงการนิวเคลียร์ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2557 เป็นต้นไปเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
•ติดตามการเปิดเผยบันทึกการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ครั้งล่าสุด วันที่ 8 ม.ค. นี้ เพื่อดูมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และคาดการณ์นโยบาย QE หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติชะลอมาตรการ QE ลง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน ในการประชุมเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา
•ติดตามตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ หลังล่าสุดสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ประกาศปริมาณน้ำมันดิบคงคลังล่าสุดถึงวันที่ 27 ธ.ค. 2556 ปรับลดลงกว่า 5.7 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันและผู้ค้าต้องการเก็บน้ำมันดิบในปริมาณต่ำช่วงปลายปีด้วยเหตุผลทางภาษี ทั้งนี้หลังปีใหม่คาดว่าตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มมากขึ้นและอาจกดดันราคาน้ำมันดิบ
•ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและจีน ดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรปและจีน รวมถึงการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานสหรัฐฯ
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (30 ธ.ค. 56 - 3 ม.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 6.36 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 93.96 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ก็ปรับลดลง 5.29 เหรียญฯ ปิดที่ 106.89 เหรียญฯและดูไบปรับลดลงเช่นกันมาอยู่ที่ประมาณ 105 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง เนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางในช่วงวันหยุดเทศกาลปลายปี นอกจากนี้ราคายังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความรุนแรงในซูดานใต้ที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง ขณะที่บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียออกมาแสดงความเห็นว่าท่าเรือหลักของประเทศลิเบียมีแนวโน้มว่าจะกลับมาเปิดใช้อีกครั้งเร็วๆ นี้ หลังรัฐบาลพยายามอย่างมากในการเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง นอกจากนี้ ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของจีนเดือน ธ.ค. ก็มีการปรับตัวลดลงทั้งตัวเลขจากรัฐบาลและตัวเลขจากภาคเอกชนส่งผลให้ตลาดมีความกังวลกับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนและความต้องการใช้น้ำมันของจีนในปีนี้
ข่าวเด่น