"อิหร่านมีความคืบหน้า กดดันราคาน้ำมันดิบปรับลด"
เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ก.พ. ปรับลดลง 0.92 เหรียญฯ ปิดที่ 91.80 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับลดลง 0.50 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 106.75 เหรียญฯ
- ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากความคืบหน้ากรณีการเจรจาโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน เนื่องจากจะมีการเจรจาตกลงกรณีการลดมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านเพิ่มเติม หลังจากวันที่ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นวันที่ข้อตกลงในเบื้องต้นการยุติโครงการนิวเคลียร์อิหร่านแลกเปลี่ยนกับการลดมาตรการคว่ำบาตรเริ่มเป็นผล
- หลุมน้ำมัน Buzzard ซึ่งเป็นหลุมน้ำมันหลักบริเวณทะเลเหนือ คาดว่าจะสามารถกลับมาดำเนินการได้เต็มประสิทธิภาพอีกครั้งในอีก 2-3 วันข้างหน้า หลังจากจำเป็นต้องหยุดดำเนินการไปหลายครั้งในสัปดาห์ก่อน
- ท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบลิเบีย คาดการณ์ว่าจะสามารถกลับมาเปิดใช้งานได้ตามปกติอีก 4 ท่าภายในปลายเดือนนี้ โดยจะส่งผลให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากลิเบียมีปริมาณเพิ่มขึ้น ภายหลังเหตุการณ์การประท้วงค่าแรงที่ทำให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศดังกล่าวหายไปกว่าครึ่งนับตั้งแต่ช่วงกลางปีก่อน
- อากาศที่หนาวเย็นมากกว่าที่คาดการณ์ในสหรัฐฯ ส่งผลให้ไม่มีการขับขี่รถยนต์และการเดินทางทางอากาศ ทำให้คาดการณ์ว่าในสหรัฐฯจะมีปริมาณน้ำมันเบนซินและน้ำมันอากาศยานคงคลังเพิ่มมากขึ้น
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีความต้องการใช้น้ำมันจากหนึ่งในผู้นำเข้าหลักในภูมิภาคอย่างเวียดนามเข้ามา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลจากเวียดนามและฟิลิปปินส์
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 90- 96 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 เหรียญฯ ติดตามตัวเลขยอดค้าปลีก และดัชนีราคานำเข้าสหรัฐฯ รวมไปถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามหน้าสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันอังคาร: ยอดค้าปลีก และดัชนีราคานำเข้าสหรัฐฯ รวมไปถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป
วันพุธ:ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ และดุลการค้าสหภาพยุโรป
วันพฤหัสบดี: ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน และผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟียสหรัฐฯ รวมไปถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี
วันศุกร์: การผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- จับตาการเจรจาสันติภาพในเอธิโอเปียเพื่อหาข้อสรุปของความรุนแรงในซูดานใต้ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 2 ม.ค. หลังความรุนแรงในประเทศส่งผลให้ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบจากซูดานใต้ลดลงมาอยู่ที่ราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน
- ความคืบหน้าของการเริ่มปฏิบัติข้อตกลงยุติโครงการนิวเคลียร์ชั่วคราวของอิหร่านที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 20 ม.ค. นี้ ซึ่งจะมีระยะเวลา 6 เดือน หลังอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจตะวันตกหารือกันล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 56 ที่ผ่านมา
- ความไม่สงบในลิเบียจะส่งผลกระทบต่อการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของประเทศหรือไม่ หลังล่าสุดรัฐบาลลิเบียขู่จะยุติการทำธุรกรรมกับบริษัทต่างชาติที่รับซื้อน้ำมันดิบจากกลุ่มผู้ประท้วงที่ลักลอบนำน้ำมันออกขายทางเรือผ่านท่าเรือทางตะวันออก
- ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นเดือนนี้ว่าจะมีการลดทอน QE ต่อเนื่องหรือไม่ นอกจากนั้น การประชุมครั้งนี้จะถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของนายเบน เบอร์นันเก้ ก่อนที่จะส่งมอบตำแหน่งให้แก่นางเจเนท เยลเลนดำรงตำแหน่งต่อไป โดยวาระของประธานเฟดของนายเบอร์นันเก้จะสิ้นสุดลงในวันที 31 ม.ค. นี้
ข่าวเด่น