บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดยระบุว่า แนวโน้มน้ำมันดิบทรงตัว ซึ่งตลาดจะจับตาปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบลิเบียและการเริ่มยุติโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน
ทั้งนี้ ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 104 –110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 90- 96 เหรียญฯ
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 20 – 24 ม.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวทรงตัว โดยราคาจะยังถูกกดดันจากการที่ลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้อีกครั้ง ทั้งยังคาดว่าจะมีการเปิดใช้ท่าเรือเพิ่มเติมในช่วงสิ้นเดือนด้วย ขณะเดียวกันตลาดยังคลายความกังวลเรื่องปัญหาการส่งออกของอิหร่านหลังแผนการยุติโครงการนิวเคลียร์อิหร่านชั่วคราวมีความคืบหน้ามากขึ้น อย่างไรก็ดี การดำเนินการอย่างเป็นทางการของท่อส่งน้ำมัน Keystone และสถานการณ์ในซูดานใต้ที่ยังคงวุ่นวายยังคงเป็นปัจจัยที่อาจทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
• การกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 650,000 บาร์เรลต่อวัน หลังหลุมน้ำมันดิบ El Sharara กำลังการผลิต 350,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง โดยการส่งออกดังกล่าวมาจากท่าเรือฝั่งตะวันตกที่ไม่ถูกปิดโดยกลุ่มผู้ประท้วง อย่างไรก็ดี การส่งออกจากท่าเรือฝั่งตะวันออกยังคงต้องจับตามองว่าจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งเมื่อไร ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าลิเบียจะกลับมาเปิดใช้ท่าเรือส่งออกเพิ่มอีก 4 ท่าเรือภายในสิ้นเดือนนี้
• ติดตามการยุติโครงการนิวเคลียร์อิหร่านชั่วคราวเป็นระยะเวลา 6 เดือน ที่จะเริ่มในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งหากอิหร่านทำตามข้อตกลงของนานาชาติ อาจทำให้มาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิก ส่งผลให้การส่งออกของอิหร่านกลับมาสู่ตลาด และ จับตาการเจรจาระหว่างชาติมหาอำนาจกับอิหร่านครั้งถัดไปในเดือน ก.พ.
• จีดีพีไตรมาส 4/56 ของจีนที่จะประกาศในวันที่ 20 ม.ค. นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับลดลงจากจีดีพีไตรมาส 3/56 ซึ่งอยู่ที่ 7.8% โดยเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงอาจกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันของประเทศได้ นอกจากนี้ ติดตามผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกและดัชนีภาคการผลิตจีนที่จะประกาศในสัปดาห์นี้
• การเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการของท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone XL กำลังการขนส่ง 700,000 บาร์เรลต่อวัน 22 ม.ค. นี้ ซึ่งจะขนส่งน้ำมันดิบจากบริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ไปยังโรงกลั่นในบริเวณอ่าวเม็กซิโก ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันคงคลังที่คุชชิ่งปรับลดลง
• ความไม่สงบในซูดานใต้ยังคงคุกรุ่น หลังการเจรจาหยุดยิงระหว่างซูดานใต้และกลุ่มกบฎในประเทศไม่มีความคืบหน้า โดยล่าสุดปริมาณการผลิตและส่งออกปรับลดลงแล้วมาอยู่ที่ราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี ซูดานและซูดานใต้กำลังเจรจาเพื่อหาทางส่งกองกำลังเข้าไปคุ้มกันบ่อน้ำมันในพื้นที่ซูดานใต้เนื่องจากกังวลว่าการผลิตและส่งออกน้ำมันของซูดานใต้จะได้รับผลกระทบมากขึ้น
• รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ม.ค. ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่จะประกาศในวันที่ 21 ม.ค. นี้ ว่าจะมุมมองต่อปริมาณความต้องการใช้และอุปทานน้ำมันดิบโลกในปีนี้อย่างไร หลังรายงานฉบับก่อนหน้ามีการปรับคาดการณ์ความต้องการใช้และอุปทานน้ำมันดิบโลกปีนี้เพิ่มขึ้น
• ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองและดัชนีภาคการผลิต (Flash PMI) สหรัฐฯ รวมถึงดัชนีภาคการผลิต (Flash PMI) และดัชนีภาคบริการ (Flash Service PMI) ของสหภาพยุโรป
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (13 - 17 ม.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 1.65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 94.37 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ปรับลดลง 0.77 เหรียญฯ ปิดที่ 106.48 เหรียญฯ ส่วนดูไบปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 102 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีขึ้น ประกอบกับข่าวการเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการของท่อส่งน้ำมัน Keystone และการปรับลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงปรับลดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือฝั่งตะวันตกได้มากขึ้น หลังหลุมน้ำมันหลัก El Sharara กลับมาผลิตได้อีกครั้ง ขณะที่การผลิตจากหลุม Buzzard ในทะเลเหนือก็กลับมาอีกครั้งหลังหยุดซ่อมบำรุงกะทันหันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวเด่น