สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET -6.07 จุด ร่วงบ่าย ผวาระเบิดที่บรรทัดทอง
SET แกว่งตัว +/- แคบ ๆ ในภาคเช้า ขาดปัจจัยใหม่ชี้นำตลาด อย่างไรก็ดี ภาคบ่ายไหลลงทันที รับข่าวเหตุระเบิดที่บรรทัดทองระหว่าง กปปส.เดินขบวนรณรงค์เชิญชวนปชช.ร่วมล้มระบอบทักษิณ มูลค่าซื้อขายเบาบางลงเหลือ 3.28 หมื่นลบ. ต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 607 ลบ. ยุติการขายสุทธิ 3 วันติดต่อกัน
ทิศทางตลาดวันนี้: ปรับลง กังวลสถานการณ์บ้านเมืองรุนแรงเพิ่มขึ้น
หุ้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ (17 ม.ค.) ปิดกระจัดกระจาย +/- เล็กน้อย หลังผลประกอบการบจ.ในสหรัฐฯ ออกมาคละเคล้า ส่วนเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น (ดัชนีชี้วัดค่าเงินดอลลาร์ฯ (DXYO) แข็งค่าสุดรอบ 2 เดือน มาที่ 81.22 +0.4%) อาจกระตุ้นให้ต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิ มอง SET มีโอกาสปรับลง กังวลสถานการณ์การชุมนุมที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งการลอบยิงและปาระเบิด ทำให้การ์ดและผู้ชุมนุม กปปส. บาดเจ็บจำนวนมาก แนวรับ 1280-85 แนวต้าน 1300-05 อนึ่ง หุ้น AIE ติด Cash Balance 20 ม.ค. - 28 ก.พ. 57
กลยุทธ์การลงทุน: เทรดดิ้งสั้น เน้นตั้งรับในกลุ่มส่งออก เด้งขายจบในวัน
การเมืองล่อแหลมและมีการใช้ความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้อีกในอนาคต ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบเงินดอลลาร์ฯ น่าจะส่งผลดีต่อหุ้นเกี่ยวข้องการส่งออกเป็นที่สนใจต่อการเทรดดิ้งระยะสั้น ชอบ KCE, DELTA, TUF, NYT ส่วนหุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก AGE, CHG, DCC, JUTHA, SPVI ธีมหลักที่แนะนำ คือ หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ดบ.ลดลง (คาด กนง.ลดดบ.0.25% เป็น 2.00% ในการประชุม 22 ม.ค.นี้) ทยอยสะสมชวงอ่อนตัว ได้แก่ 1.หุ้นอสังหาฯ ชอบ LH, QH, SPALI 2.หุ้นลีสซิ่ง ชอบ ASK และ 3.หุ้นปันผล ชอบ TICON, PYLON, DELTA, KTB, SRICHA, MCOT, ASP, KGI, AI, PAP โดยหุ้นทั้งหมดดังกล่าวล้วนมีการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสอดคล้องกับช่วงฤดูกาลทยอยประกาศงบและจ่ายเงินปันผลประจำปีในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้ด้วย
หุ้นเด่นรายวัน : DELTA , NYT
DELTA – เป็นหุ้นส่งออกที่ได้ประโยชน์จากศก.โลกฟื้นตัวดีขึ้นมาก (World Bank ปรับประมาณการศก.โลกปี 57F โตขึ้นจาก 3.0% เป็น 3.2%) และเงินบาทอ่อนค่า ความต้องการระบบไฟสำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Center) ยังคงแข็งแกร่ง เรามองตลาดจะปรับประมาณการกำไรปี 57F และมูลค่าเหมาะสมขึ้นในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ ผลตอบแทนเงินปันผลยังสูงด้วย คาด Yield ในช่วง 57-58F ไม่ต่ำกว่า 4% มูลค่าเหมาะสม 54 บ. (PER 12x เท่าปี 57F) ซึ่งเรามีโอกาสปรับประมาณการและมูลค่าเหมาะสมขึ้นเช่นกัน
NYT – ดำเนินธุรกิจท่าเทียบเรือขนถ่ายรถยนต์โดยเฉพาะ มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และมีส่วนแบ่งมากกว่า 80% ของการส่งออกรถยนต์ไปตปท. แนวโน้มสดใสจากการส่งออกรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น (คาดปี 57F ไม่น้อยกว่า 1.25 ล้านคัน) และการที่ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออก (ปัจจุบันไทยผลิตรถยนต์ขึ้นเป็นอันดับ 9 ของโลก) คาดกำไรปี 57F ขยายตัว 31% ต่อปี (มีท่าเรือ C0 ที่ถือหุ้นเพิ่มจาก 20% เป็น 49% เข้ามาหนุนกำไรปีนี้) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง (DE < 0.2x) มูลค่าเหมาะสม 19.2 บ. (DCF)
ปัจจัยติดตาม
20 ม.ค.
JP ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย. (สุดท้าย)
EU ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหภาพยุโรปใน ม.ค. (เบื้องต้น)
IT ตัวเลขคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีในเดือน พ.ย.
21 ม.ค.
JP ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
EU ตัวเลขผลสำรวจคาดการณ์ภาวะศก. (ZEW Survey) ของสหภาพยุโรปในเดือน ม.ค.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
ข่าวเด่น