ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
กนง.มีมติ 4:3 ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25%


 

 

 

 

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันนี้ (22 ม.ค.) มีมติด้วยเสียง 4:3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% หลังประเมินพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังรองรับปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองได้

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธาน คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 22 มกราคม 2557 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไป เพื่อกำหนดนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน โดยเศรษฐกิจ G3 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง นำโดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ขยายตัวได้ดีจากอุปสงค์ในประเทศ เศรษฐกิจจีนยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง

ขณะที่การส่งออกของเอเชียเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มเอเชียเหนือเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 คาดว่าจะขยายตัวต่ำกว่าประมาณการเดิมจากอุปสงค์ในประเทศ ส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2556 ต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากการประชุมครั้งก่อนความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองมีผลให้ความเชื่อมั่นภาคเอกชนลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป ด้านการส่งออกแม้เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวในบางกลุ่มอุตสาหกรรม แต่โดยรวมยังขยายตัวในอัตราต่ำ

คณะกรรมการฯ ประเมินว่านโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบันยังคงเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในสภาวะที่สถานการณ์การเมืองและผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นปัจจัยเสี่ยงระยะสั้นและพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังสามารถรองรับความเสี่ยงดังกล่าวได้ ประกอบกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศยังคงเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อวางพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า

คณะกรรมการฯ จึงมีมติ 4 ต่อ 3 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยกรรมการ 3 ท่านเห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 เนื่องจากเห็นว่าภายใต้อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ นโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อดูแลความเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้นได้ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายที่เหมาะสม

นายประสาร ยังได้กล่าวถึง การปรับคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือจีดีพี (GDP) ด้วยว่า จีดีพีในปี 56 น่าจะขยายตัวต่ำกว่า 3% ส่วนในปี 57 คาดว่าน่าจะต่ำกว่าระดับที่ประมาณการณ์ไว้เดิมที่ 4% โดยน่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 3% เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ม.ค. 2557 เวลา : 17:12:17

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:08 am