บมจ.ไทยออยล์ รายงาน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 1.54 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 108.27 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบ มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 1.76 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 96.73 เหรียญฯ

 

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone XL เพื่อขนส่งน้ำมันดิบจากคลังน้ำมันบริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา (จุดส่งมอบน้ำมันดิบ WTI) ไปยังโรงกลั่นในแถบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก โดยเบื้องต้นจะเริ่มขนส่งน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามสำหรับทั้งปีนี้คาดว่าจะเฉลี่ยที่ประมาณ 525,000 บาร์เรลต่อวัน 

 

+ IMF ปรับการคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้เพิ่มเป็น 3.7% เพิ่มขึ้น 0.1% จากการคาดการณ์ครั้งก่อน เนื่องจากประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วมีแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ สหรัฐอเมริกา กับ สหราชอาณาจักร สำหรับในปี 2015 IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีนี้ โดยอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 3.9% 

 

+ นอกจากนั้นเนื่องจากอากาศที่หนาวมากในทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพื่อทำความร้อนสูงขึ้น

 

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่สหรัฐอเมริกา รายงานโดยสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) ปรับเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาร์เรล สำหรับน้ำมันเบนซินคงคลังนั้นปรับเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล แต่อย่างไรก็ตามสำหรับน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลงกว่า 2.3 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่คาดว่าจะลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล เนื่องจากความต้องการน้ำมันทำความร้อนที่สูงขึ้น

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ความต้องการน้ำมันเบนซินจากเวียดนามยังคงอยู่ระดับสูง ประกอบกับอุปทานในภูมิภาคที่จะค่อนข้างตึงตัวในช่วงเดือนมีนาคม หลังจากหลายโรงกลั่นมีกำหนดการปิดซ่อมบำรุงประจำปี 

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณอุปทานที่ค่อนข้างสูง จากญี่ปุ่นที่ส่งออกมากขึ้นหลังจากความต้องการใช้ในประเทศต่ำ และยังมีอุปทานจากซาอุดิอาระเบียมายังสิงค์โปร์เพิ่ม นอกจากนี้ปริมาณอุปสงค์ในภูมิภาคอยู่ในไม่สูงมากนัก

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 93- 99 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 เหรียญฯ  

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามหน้าสัปดาห์นี้ได้แก่

วันพฤหัสบดี: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ยอดขายบ้านมือสองและดัชนีภาคการผลิต (Flash PMI) ของสหรัฐฯ รวมถึง ดัชนีภาคการผลิต (HSBC Flash PMI)ของจีน  ดัชนีภาคการผลิต (Flash PMI) และดัชนีภาคบริการ (Flash Service PMI) ของสหภาพยุโรป

วันศุกร์: -

 

 - จับตาการเปิดใช้ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone XL ขนาด 700,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ม.ค. นี้ โดยเบื้องต้นท่อจะขนส่งน้ำมันที่ 300,000 บาร์เรลต่อวัน 

- ความไม่สงบในซูดานใต้ยังคงคุกรุ่น หลังการเจรจาหยุดยิงระหว่างซูดานใต้และกลุ่มกบฎในประเทศไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ล่าสุดปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบจากซูดานใต้ลดลงแล้วมาอยู่ที่ราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน

- จับตาการส่งออกน้ำมันดิบของจากท่าเรือฝั่งตะวันออกของลิเบียว่าจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งเมื่อไร หลังการส่งออกจากท่าเรือฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้นทำให้การส่งออกลิเบียล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 650,000 บาร์เรลต่อวัน