แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 27 – 31 ม.ค. 57)

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในสัปดาห์นี้คาดว่าจะทรงตัว โดยถูกกดดันจากจีดีพีไตรมาส 4/2556 สหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า รวมไปถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจมีการหารือเรื่องการปรับลดมาตรการเงินอัดฉีดเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี การเริ่มเปิดใช้ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone XL รวมไปถึงความรุนแรงในลิเบียและซูดานใต้ยังคงเป็นปัจจัยที่คาดว่าจะหนุนราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้

 

•จีดีพีไตรมาส 4/2556 สหรัฐฯ ประเทศมหาอำนาจซึ่งบริโภคน้ำมันดิบกว่า 1 ใน 4 ของโลก ที่จะประกาศในวันที่ 30 ม.ค. นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่เติบโต 3.3% จาก 4.1% ในไตรมาสก่อนหน้า

 

•การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ ว่าจะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินอย่างไร ภายหลังตัดสินใจปรับลดมาตรการอัดฉีดทางการเงิน (QE) ลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในการประชุมครั้งที่ผ่านมา

 

•ปัญหาการประท้วงในลิเบียที่ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลในเรื่องภาวะอุปทานตึงตัว อย่างไรก็ดีล่าสุดนายกรัฐมนตรีลิเบียออกมาประกาศว่ามีแผนการที่จะเข้ายึดท่าขนส่งน้ำมันทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งมีกำลังการส่งออกรวมอยู่ที่ราว 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

•การเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการของท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone XL ซึ่งจะขนส่งน้ำมันดิบจากบริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ไปยังโรงกลั่นในบริเวณอ่าวเม็กซิโก จะช่วยให้อุปทานส่วนเกินบริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมาปรับลดลงได้ โดยเบื้องต้นท่อดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มขนส่งน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

•ความไม่สงบในซูดานใต้ที่ยังคงคุกรุ่น โดยล่าสุดประธานาธิบดีซูดานใต้ได้สั่งการให้ทหารเข้าจู่โจมผู้ก่อการกบฏเพื่อขับไล่ผู้ก่อการกบฏออกจากรัฐมะละกา สร้างความกังวลต่อความสามารถในการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศ

 

•ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ สัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยอดการว่างงานสหภาพยุโรป รวมไปถึงดัชนีภาคการผลิตจีน (HSBC PMI)

 

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 20 - 24 ม.ค. 57)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.27 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 96.64 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 1.40 เหรียญฯ ปิดที่ 107.88 เหรียญฯ ขณะที่ดูไบปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ประมาณ 104 เหรียญฯ

 

ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานความต้องการใช้น้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในประเทศที่พัฒนาแล้วในช่วงที่ผ่านมา การเปิดใช้ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone XL ซึ่งจะทำการขนส่งน้ำมันจากบริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ไปยังโรงกลั่นแถบเม็กซิโก รวมถึงความไม่สงบในลิเบียและซูดานใต้ที่หนุนราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2556 จีนที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้และปี 2558 จะปรับลดลง นอกจากนี้การเริ่มต้นของการลดมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติต่ออิหร่านยังคงสร้างแรงกดดันไม่ให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก