เวสต์เท็กซัสส่งส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับลดลง 0.74 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 97.49 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์มอบ มี.ค. ปรับลดลง 1.55 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 106.40 เหรียญฯ

 

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดหลังนักลงทุนกังวลกับเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา ทั้งยังกังวลกับการปรับลด QE ต่อเนื่องของ FED นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ บางตัวยังมีมีแนวโน้มอ่อนตัวลง โดยดัชนีชี้วัดภาคการผลิตรัฐชิคาโกเดือน ม.ค. ลดลงมากกว่าคาดโดยขยายตัวที่ 59.6 จาก 60.8 ในเดือน ธ.ค. หลังราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น

 

- ขณะที่ความรู้สึกผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ม.ค. ออกมาอยู่ที่ 81.2 ปรับลดลงจากเดือน ธ.ค. ที่ 82.5 และลดลงเป็นเดือนที่ 3 ต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากชาวอเมริกันยังคงกังวลกับความมั่นคงและการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะยาว อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวถือว่าออกมาดีกว่าตัวเลขที่ประกาศเบื้องต้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่ 80.4 

 

-/+ รายรับส่วนบุคคลของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ยังคงทรงตัวต่อ หลังขยายตัว 0.2% ในเดือน พ.ย. โดยรายรับที่ทรงตัวมีผลเกี่ยวเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ขณะที่รายจ่ายส่วนบุคคลปรับเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายภาคบริการ

 

- อัตราการว่างงานยูโรโซนยังสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ 12% ในเดือน ธ.ค. ซึ่งถือว่าเป็นใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในประวัติกาล โดยการว่างงานในกรีซและสเปนยังคงสูงต่อเนื่อง ส่วนการว่างงานต่ำสุดส่วนใหญ่อยู่ในประเทศออสเตรีย เยอรมนี และลักแซมเบิร์ก

 

-/+ อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเดือน ม.ค. ปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 0.7% จาก 0.8% ในเดือน ธ.ค. ส่งผลให้ตลาดมองว่านายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานธนาคารสหภาพยุโรปจะยังคงอัตราดอกเบี้ยทีระดับต่ำกว่า 2% ต่อไป ในการประชุมธนาคารในสัปดาห์นี้

 

- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปกปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 29.94 บาร์เรลต่อวัน จากระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือน ธ.ค. หลังการผลิตจากลิเบียและอิรักปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าการผลิตของกลุ่มจะเพิ่มต่อเนื่องในปีนี้

 

ราคาน้ำมันเบนซินและราคาน้ำมันดีเซล ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

 

ไทยออยล์ไทยออยล์ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 93- 99 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 เหรียญฯ  คืนนี้ติดตามการประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิต(ISM) และตัวเลขการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างสหรัฐฯ รวมไปถึง ดัชนีภาคการผลิตสหภาพยุโรป (Markit) อีกทั้งดัชนีภาคการบริการจีน

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันอังคาร: ยอดคำสั่งซื้อสินค้าโรงงานสหรัฐฯ และดัชนีราคาผู้ผลิตจีน

วันพุธ: ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ(ISM) รวมไปถึงดัชนีภาคการบริการ(Markit)  และยอดค้าปลีกสหภาพยุโรป

วันพฤหัสบดี: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างานสหรัฐฯ 

วันศุกร์: ดัชนีภาคการบริการจีน (HSBC)

 

- จับตาการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรปในวันที่ 6 ก.พ. นี้ ว่าผู้นำยุโรปจะมีมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มในปีนี้อย่างไร ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเศรษฐกิจธนาคารจะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป

- จับตาปัญหาหนี้สหรัฐฯ ที่มีกำหนดชนเพดานในวันที่ 7 ก.พ. นี้ โดยล่าสุดรัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ กระตุ้นให้สภาคองเกรสสร้างความเชื่อมั่นให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังโรงกลั่นหลายแห่งต้องยุติการดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวรุนแรง 

- ความไม่สงบใน ซูดานใต้ ซีเรีย และอิรัก ยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตของประเทศ นอกจากนี้ จับตาว่าลิเบียจะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือฝั่งตะวันออกได้หรือไม่หลังการเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วงมีความคืบหน้า