Tisco มองตลาดหุ้นไทยวันนี้แนวโน้มลง จากศก.สหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัว
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +18.53 จุด สวนภูมิภาค เลือกตั้งไม่มีเหตุรุนแรง
SET แกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน กรอบ 1280-95 สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลงราว 1% นลท.มองเชิงบวกหลังการเลือกตั้ง 2 ก.พ. ไม่มีเหตุรุนแรง ขณะที่ กกต.รายงานเบื้องต้น จำนวนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งคิดเป็น 45.8% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต่างชาติขายสุทธิอีก 3.0 พันลบ. เป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลง ศก.สหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัว + ค่าเงินผันผวน
ตลาดหุ้นโลกเมื่อคืน (3 ก.พ.) ดิ่งลงแรง เฉลี่ยราว 2% หลังตัวเลข ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ลดลงจาก 56.5 ใน ธ.ค.มาที่ 51.3 ใน ม.ค.ต่ำสุดรอบ 8 เดือน และแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 56.0 ประกอบกับมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความปั่นป่วนของค่าเงินในตลาดปท.เกิดใหม่ (EM) ทำให้นลท.หนีความเสี่ยง (risk-off) สังเกตได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงต่อเนื่อง มาที่ 2.59% ต่ำสุดใหม่ในรอบ 3 เดือน ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคทยอยกลับมาเปิดทำการตามปกติ ยกเว้นจีนและไต้หวันที่ยังปิดต่อเนื่องในเทศกาลตรุษจีน เรามองปัญหาการเมืองยังคาราคาซังต่อไป แม้มีการเลือกตั้งใหม่อีกกี่ครั้งก็ตาม เพราะไม่ได้ตอบโจทย์ทางการเมืองที่สำคัญ 2 ข้อ (1) การชุมนุม กปปส.ยังคงดำเนินต่อไป โดยเริ่มต้นปฏิบัติการชัตดาวน์ครม./ยกระดับไล่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ (2) การปฏิรูปการเมืองยังไม่ตกผลึก ล่าสุด วันนี้ (4 ก.พ.) พรรคปชป.เตรียมยื่นศาลรธน.วินิจฉัยการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะและยุบพรรคพท. ส่วน กกต.เตรียมเคาะวันเลือกตั้งใหม่ในช่วง 2-3 วันนี้ มอง SET กระโดดลง ปัจจัยใน/นอกกดดัน แม้เมื่อวานปรับขึ้นแกร่งเกินคาด แต่คงฝืนกระแสหุ้นตปท.ได้ไม่นาน แนวรับ 1275-80 แนวต้าน 1295-1300
กลยุทธ์การลงทุน : Wait & See; ขึ้นขายลดพอร์ต ถือเงินสดเพิ่ม
ความปั่นป่วนของค่าเงินในปท.ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets), สัญญาณการชะลอตัวของศก.สหรัฐฯ และจีน ตลอดจนความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ทำให้เรายังคงมุมมองตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วง “Sideway Down” กลยุทธ์หลัก คือ แนะนำให้ “ขายลดพอร์ต ถือเงินสดเพิ่ม” ธีมหลักคือทยอยสะสมหุ้นปันผลงวดนี้ (คำนึงการจ่ายเงินปันระหว่างกาลในปี 56 ไปแล้ว) ชอบ TICON, PYLON, DELTA, KTB, SRICHA, MCOT, ASP, KGI, AI, PAP ท่ามกลางวิกฤติการเมืองขณะนี้ นักลงทุนอาจต้องมองข้ามความผันผวนรายวันที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ไปสู่การลงทุนในระยะกลาง-ยาวที่สามารถถือทนแกว่งต่อสู้ปัญหาการเมืองในขณะนี้ได้ เราคัดเลือกหุ้นเด่นที่น่าลงทุนสำหรับเดือน ก.พ. ที่สามารถฝ่าวิกฤติการเมืองรอบนี้ คือ (1) หุ้นที่มีผลประกอบการอิงกับเศรษฐกิจ (ความต้องการ) ในต่างประเทศ เพราะแทบไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง และ/หรือหุ้นที่ได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า จากแนวโน้มการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ แนะนำหุ้นส่งออก KCE, หุ้นรับเหมาต่างประเทศ BJCHI, STPI (2) หุ้นปันผล INTUCH, KGI, LPN สำหรับหุ้นอื่นๆ ที่เราชอบในเชิงพื้นฐาน BBL, HEMRAJ
หุ้นเด่นรายวัน : ไม่มี
ปัจจัยติดตาม
4 ก.พ.
US ตัวเลขคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค.
5 ก.พ.
EU ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหภาพยุโรปในเดือน ธ.ค.
EU ตัวเลข PMI ภาคบริการ-รวมในเดือน ม.ค. (สุดท้าย)
US ตัวเลข ISM Manufacturing ของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค.
US ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศของสหรัฐฯ (ADP Employment Chg.) ในเดือน ม.ค.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
ข่าวเด่น