ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว... หลังสต๊อกน้ำมันทำความร้อนสหรัฐฯ ลดลงน้อยกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขการผลิตจีนร่วมกดราคา
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้น สุดวันที่ 14 ก.พ. 57 ปรับเพิ่มขึ้น 973,000 บาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่คุชชิ่งปรับลดลง 1.73 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือว่าน้อยกว่าคาด นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังก็ปรับลดลงเพียง 339,000 บาร์เรล น้อยกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลงมากถึง 2 ล้านบาร์เรล
- ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตจีนเบื้องต้น (HSBC flash PMI) เดือน ก.พ. ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนมาหดตัวอยู่ที่ 48.3 หลังหดตัวที่ 49.5 ในเดือน ม.ค. สร้างความกังวลกับความต้องการใช้น้ำมันในภาคอุตสาหกรรมและการเติบโตของเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ดี ตัวเลขที่ลดลงในเดือนนี้อาจมีผลจากวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลปีใหม่จีน นอกจากนี้ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตยูโรโซนเบื้องต้น (Markit flash composite PMI) เดือน ก.พ. ลดลงมาอยู่ที่ 52.7 จากเดือนก่อนที่ 52.9 และสวนทางกับที่คาดด้วย
-ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟียเดือน ก.พ. ร่วงลงต่ำสุดในรอบปีมาอยู่ที่ -6.3 จาก 9.4 ในเดือนที่แล้ว ทั้งนี้เนื่องจากกาศหนาวที่ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตสหรัฐฯ เบื้องต้น (Flash PMI) เดือน ก.พ. พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ที่ 56.7 หลังยอดซื้อสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น 58.8
+ ขณะที่ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสัปดาห์ล่าสุดลดลง 3,000 ตำแหน่งมาอยู่ที่ 336,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. แม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1.6% หลังราคาพลังงานแพงขึ้นในหน้าหนาว แต่ตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ 2% ส่งผลให้เฟดยังคงอัราดอกเบี้ยต่ำต่อไป
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้น หลังอินเดียส่งออกน้ำมันเบนซินมายังสิงคโปร์เพิ่มมากขึ้นหลังโรงกลั่นบางแห่งเสร็จสิ้นจากการปิดซ่อมบำรุง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับลดลง เนื่องจากมีการส่งออกน้ำมันไปยังสหรัฐฯ อาร์เจนตินา และออสเตรเลียมากชึ้น ขณะที่ความต้องการใช้ในภูมิภาค ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา และเวียดนาม เป็นต้น ยังคงมีอยู่
ทิศทางราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 96 - 104 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 หรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้
- ปัญหาการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบีย เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถหาข้อตกลงกับกลุ่มผู้ประท้วงได้ โดยล่าสุดกำลังการผลิตของลิเบียปรับลดลงมาอยู่ที่ 0.39 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากหลุมน้ำมันหลัก El Sharara ยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้เต็มที่ และมีเหตุการณ์ประท้วงในเวเนซูเอล่า โดยมีกลุ่มผู้ประท้วงนับหมื่นคนออกมาประท้วงแสดงความไม่พอใจต่อประธานาธิบดี รวมไปถึงเหตุการณ์กบฎในซูดานใต้ ซึ่งได้ประกาศจะเข้ายึดเมืองหลวงของประเทศ โดยล่าสุดซูดานใต้มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ หลังจากพายุหิมะหลายลูกได้พัดเข้าถล่มหลายเขต เป็นผลให้ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมไปถึงมีการนำเข้าน้ำมันดีเซลจากยุโรปเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการเพื่อการทำความร้อนอีกด้วย
- ติดตามจีดีพีไตรมาส 4/2556 สหรัฐฯ (Prelim) ที่จะประกาศในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ว่าประเทศมหาอำนาจที่มีความต้องการใช้น้ำมันดิบกว่า 25% ของโลก จะมีทิศทางเศรษฐกิจอย่างไร โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์จีดีพีไตรมาส 4/2556 ไว้ที่ 2.7%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า
วันศุกร์ ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ - ม.ค. 57
วันจันทร์ ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ (Markrit) - ก.พ. 57
วันอังคาร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ - ธ.ค. 56
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ - ก.พ. 57
วันพุธ ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ - ม.ค. 57
วันพฤหัสฯ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ - ม.ค. 57
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยุโรป - ก.พ. 57
วันศุกร์ จีดีพีสหรัฐฯ (Prelim) - ไตรมาส 4/56
อัตราการว่างงานยุโรป - ม.ค. 57
ข่าวเด่น