พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์ทางการเมืองประจำวัน ที่ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุม ว่า วันนี้ ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะ ผอ.รมน.จังหวัด ช่วยติดตามสอดส่องการยุยงปลุกปั่นให้คนในสังคมเพิ่มความเกลียดชัง แบ่งฝ่าย เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามมากขึ้น
โดยสั่งการให้แม่ทัพภาคเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ของตนเอง มาประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องมีการเตรียมพร้อมในเรื่องกฎหมายที่อาจจะนำมาใช้หากเกิดความไม่สงบในพื้นที่ของตนเอง เช่น พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อควบคุมสถานการณ์ จำเป็นต้องใช้หรือไม่และเมื่อไหร่ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขเรียบร้อย
สำหรับกรณีที่ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นพูดบนเวที นปช. ที่โคราช โดยระบุว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะนำข้อเสนอการแบ่งแยกประเทศพร้อมทั้งให้ประชาชนจับอาวุธขึ้นมาต่อสู้นั้น พ.อ.บรรพต กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าไม่สามารถทำได้ เพราะประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกไม่ได้ อย่าชี้นำสังคม เพราะไม่เกิดประโยชน์ ถือเป็นวาทะกรรมทางการเมืองเอาไปพูดบนเวทีเพื่อปลุกระดมมวลชน จึงอยากให้ประชาชนมีวิจารณญาณในการรับฟังข่าวสาร เพราะสังคมต้องอยู่ร่วมกันด้วยกฎกติกาและกฎหมาย ต้องเชื่อมั่นขบวนการยุติธรรม
นอกจากนี้ ยังไม่อยากให้เกิดลัทธิเอาอย่างและการลอกเลียนแบบ ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยออกมาแถลงการณ์ต่อต้านการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.นั้น กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยมีหลายกลุ่ม และแบ่งเป็นกลุ่มย่อย ๆ ซึ่งไม่ใช่ตัวแทนของกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทั้งหมด ถือว่าเป็นแค่การรวมตัวเพื่อแสดงกิจกรรมทางการเมือง เนื่องจากกลุ่มได้สลายไปแล้ว
ส่วนกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า กลุ่มก่อเหตุรุนแรงรายวัน สุ่มเสี่ยงยกระดับเป็นกลุ่มก่อการร้ายนั้น ทาง กอ.รมน.มองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์ที่เปราะบาง มากกว่าเป็นการก่อการร้าย ส่วนสถานการณ์ใดจะเข้าข่ายการก่อการร้ายหรือไม่ ต้องไปดูในกฎหมายอาญา
ข่าวเด่น