บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว หลังอุปสงค์ปรับลดและยังต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 106 –112 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 96-104 เหรียญฯ”
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (17 - 21 มี.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบปรับลดลงอันเนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งทั่วโลกเตรียมเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง ขณะเดียวกันยังมีการประชุมที่น่าจับตามองในวันที่ 17-18 มี.ค. ซึ่งก็คือการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดมาตรการ QE ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังเฝ้าติดตามการผลิตน้ำมันดิบลิเบียที่ยังไม่มีความแน่นอน และการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหภาพยุโรป รวมถึงท่าทีที่ตลาดตอบรับต่อผลการโหวตของรัฐไครเมียเพื่อขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลต่อราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
•ติดตามปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบน้อยลงหลังสิ้นสุดฤดูหนาว ขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบลดลงเพราะใกล้ถึงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในสหรัฐฯ และโรงกลั่นหลายแห่งในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง
•จับตาบทบาทของนางเจเนต เยลเลนในฐานะประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สตรีคนแรก ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 17-18 มี.ค. นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าทางธนาคารกลางฯ จะยังคงปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ลงต่อเนื่อง เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยล่าสุดธนาคารกลางฯ เข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวอยู่ที่ 65,000 ล้านเหรียญฯ ต่อเดือน
•ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง El Sharara กลับมาดำเนินการอีกครั้งในช่วงกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ดี การผลิตน้ำมันดิบของทั้งประเทศยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 250,000 บาร์เรลต่อวัน เท่านั้น หลังล่าสุดเกิดการประท้วงปิดท่าเรือขึ้นอีกครั้ง ขณะที่อดีตนายกลิเบียถูกโหวตออกจากตำแหน่งแล้ว เพราะไม่สามารถจัดการกับกลุ่มกบฏหัวรุนแรงที่ยังคงปิดท่าเรือฝั่งตะวันออกได้
•ท่าทีของสหภาพยุโรปต่อการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยล่าสุดสหภาพยุโรปมีข้อตกลงเรื่องการคว่ำบาตรร่วมกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยสงครามเย็น ซึ่งการคว่ำบาตรจะเน้นการงดการออกวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวและการอายัดทรัพย์สินของรัสเซีย โดยทางเยอรมนีออกมาย้ำว่าการคว่ำบาตรจะเริ่มใช้ในวันจันทร์หน้า หากการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนไร้ความคืบหน้า
•ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต-ผู้บริโภค ยอดขอสร้างบ้านใหม่-บ้านมือสอง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมรัฐนิวยอร์คและของธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (10–14 มี.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงมาก โดยเฉพาะน้ำมันดิบเวสเท็กซัสปรับลดลง 3.69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 98.89 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ปรับลดลง 0.43 เหรียญฯ ปิดที่ 108.57 เหรียญฯ ส่วนดูไบปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 104 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากเศรษฐจีนที่ชะลอตัวลง โดยตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกจีนที่ออกมาแย่และการขาดดุลการค้าที่มากสุดในรอบ 2 ปี ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันของจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปีปรับตัวลดลง ขณะเดียวกันตลาดคลายความกังวลกับภาวะอุปทานตึงตัวในตะวันออกกลาง หลังตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบของอิรักปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี นอกจากนั้นการผลิตน้ำมันจากแหล่ง El Sharara ทางตะวันตกของลิเบียยังเพิ่มขึ้นราว 50,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงกลางสัปดาห์ นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและการเปิดประมูลการขายน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ปริมาณ 5 ล้านบาร์เรล ล้วนส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
ข่าวเด่น