สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET+1.68จุด เปิดต่ำ-ปิดสูง เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เริ่มชัดขึ้น

SET เปิดตลาดปรับลงทันที 6 จุด ตามภาวะตลาดหุ้นตปท.ที่ร่วงมากกว่า 1% จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในยูเครนที่ตึงเครียดขึ้น หลังรัสเซียซ้อมรบบริเวณชายแดนใกล้ยูเครน แต่ช่วงบ่ายเริ่มกระเตื้องขึ้นจนพลิกมาปิดบวกได้ในที่สุด จากการยกเลิกใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เริ่มชัดเจนขึ้น  ต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 2.45 พันลบ. 

ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งออกข้างถึงปรับขึ้นต่อได้ จากปัจจัยในปท.หนุน

หุ้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ (14 มี.ค.) ปิดลบเล็กน้อย กังวลสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ผลการลงประชามติของไครเมียเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 95.5% แม้สหรัฐฯ และชาติตะวันตกส่งสัญญาณไม่ยอมรับการลงประชามติของไครเมีย เนื่องจากละเมิดรธน.ของยูเครน และเตรียมคว่ำบาตรกับรัสเซีย แต่เรามองไม่บานปลายจนกลายเป็นสงครามข้ามชาติ ทำให้ผลกระทบต่อหุ้นไทยค่อนข้างจำกัดมาก เรามองโอกาสยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในการประชุมครม.วันพรุ่งนี้ (18 มี.ค.) ยังเป็นปัจจัยในปท.หลักที่น่าจะช่วยหนุน SET ขึ้นได้ โดยสรุป เรามอง SET แกว่งออกข้างถึงปรับขึ้นต่อเนื่อง แนวรับ 1360+/- แนวต้าน 1380-90 หุ้น IFEC ติด Cash Balance 17 มี.ค. - 25 เม.ย. 
 

กลยุทธ์การลงทุน : อ่อนตัวซื้อเพิ่ม/ถือทนแกว่ง คงเป้าขาย SET ที่ 1400+/-

ด้วยการยกเลิกใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อาจเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ (จับตาการประชุมครม.วันอังคารที่ 18 มี.ค. นี้) หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ ท่าอากาศยาน (ชอบ AOT), สายการบิน (ชอบ NOK) โรงแรมและโรงพยาบาล (ชอบ CENTEL, BGH) ได้รับประโยชน์โดยตรง  นอกจากนี้ การยกเลิกใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ น่าจะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดการเข้ามาลงทุนของเงินทุนตปท. เรามองหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ที่ต่างชาติลดการถือครองหุ้นลงมามาก (under-owned) ในปีที่แล้ว น่าจะเป็นเป้าหมายการซื้อคืนของต่างชาติ (Short Covering)  จากการตรวจสอบหุ้นใน SET100 Index ทั้งในแง่ของปัจจัยพื้นฐานและความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาประกอบ เรามองหุ้นใน SET50 Index คือ CPF, BBL, SCB, PTTEP, EGCO, CPN, HMPRO  และ SET100 Index คือ AMATA, BLAND น่าสนใจต่อการลงทุนระยะสั้น หุ้นเด่น (Top Picks) สำหรับเดือน มี.ค. แนะนำ ASK, HEMRAJ, HMPRO, LH, LPN, PYLON, STPI, TVO ส่วนนลท.ที่ต้องการเทรดดิ้งระยะสั้น เรามองหุ้นขนาดเล็กที่มีสัญญาณเชิงบวก AAV, BEAUTY 
 

หุ้นเด่นรายวัน : BEAUTY , NOK

BEAUTY – มองว่าการบริโภคที่ลดลง ส่งผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น บริษัทยังคงเป้าขยาย 66 สาขาในประเทศ และมีแผนที่จะเปิด 13 สาขาในประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งเป้ารายได้โต 30% และอัตราส่วนกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% เราคาดกำไรปี 57F โต 23% มาที่ 260 ลบ. มูลค่าเหมาะสม 25 บ. (DCF)
 

NOK – เป็น 1 หุ้นเด่นที่เราชอบสุดจากประเด็นการยกเลิกใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่จะช่วยหนุนบรรยากาศเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว กำไรปี 57F คาดโต 26% มาที่ 1.35 พันลบ. ราคาหุ้นถูก คิดเป็น PER ไม่ถึง 10x ปี 57F, PBV 2.5x และผลตอบแทนเงินปันผล (Yield) ราว 5% ราคาหุ้น NOK ยัง laggard โดยปรับขึ้นเพียง 5% YTD vs AAV +17% มูลค่าเหมาะสม 24.6 บ. (CONSENSUS) 
 

17 มี.ค.
TH 6 องค์กรอิสระจะหารือเพื่อช่วยกันหาทางออกประเทศ

EU ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหภาพยุโรปในเดือน ก.พ. 

US ผลผลิตและอัตราใช้กำลังผลิตสหรัฐฯ ใน ก.พ., ผลสำรวจภาคการผลิต (Empire Manuf.)  ใน มี.ค.

 US เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของต่างชาติในเดือน ม.ค.

18 มี.ค.
TH ประชุมครม. คาดมีประเด็นหารือสำคัญ คือ การยกเลิกใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

GE ตัวเลขผลสำรวจคาดการณ์ภาวะศก. (ZEW Survey) ของเยอรมันในเดือน มี.ค.

US ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ, การเริ่มและอนุญาตสร้างบ้าน ใน ก.พ.
 

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research