บมจ.ไทยออยล์ ชี้ราคาน้ำมันดิบลด หลังสหรัฐฯมุ่งเน้นการคว่ำบาตรเฉพาะตัวบุคคล จึงไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบลด หลังโอบามาประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่รัสเซียและยูเครน 11 คนที่มีส่วนรับผิดชอบการจัดการแสดงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชในเขตไครเมียเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยการคว่ำบาตรดังกล่าวจะมุ่งเน้นการงดออกวีซ่าและทำการอายัดทรัพย์สินเฉพาะตัวบุคคลทั้ง 11 คน ส่งผลให้การคว่ำบาตรครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
- สำนักงานรอยเตอร์คาดว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ วันที่ 14 มี.ค. 2557 มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลและเบนซินคงคลังมีแนวโน้มปรับลดลง 0.3 และ 1.3 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ
-ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% โดยแผลผลิตภาคการผลิต ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว 0.8% แสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากเผชิญสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
-ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมรัฐนิวยอร์คในเดือน มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.61 จาก 4.48 ในเดือน ก.พ.
-ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียประเทศยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 250,000 บาร์เรลต่อวัน หลังแหล่งการผลิตน้ำมันดิบ El Sharara จำเป็นต้องหยุดการผลิตอีกครั้ง หลังมีการประท้วงครั้งใหม่เกิดขึ้น
-นักลงทุนต่างจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 18-19 มี.ค. ซึ่งตลาดคาดว่าทางธนาคารกลางฯ น่าจะยังคงดำเนินนโยบายให้ปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ลงอีก 10 พันล้านดอลลาร์ฯ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคและตะวันออกกลางยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้อินเดียมีการส่งออกน้ำมันเบนซินออกมาอย่าต่อเนื่อง ส่งผลกดดันตลาดน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันดีเซลจะลดลง เนื่องจากเป็นช่วงของการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในภูมิภาค นอกจากนี้ญี่ปุ่นมีแนวโน้มส่งออกลดลง เนื่องจากมีความต้องการน้ำมันดีเซลภายในประเทศในระดับสูง เพื่อเตรียมเก็บสต๊อกก่อนเข้าฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 96 - 104 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้
- ท่าทีของประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปต่อการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยล่าสุดสหภาพยุโรปย้ำว่ามาตรการคว่ำบาตรจะเริ่มใช้ในวันจันทร์นี้ หากการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่มีความคืบหน้า โดยการคว่ำบาตรครั้งนี้จะเน้นเรื่องการงดการออกวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวและทำการอายัดทรัพย์สินชาวรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจรัสเซียในระยะยาว
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบน้อยลง เนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งเตรียมเข้าสู่การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น นอกจากนี้ โรงกลั่นหลายแห่งในยุโรป เอเชีย รวมถึงตะวันออกกลาง ก็เตรียมเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในช่วงไตรมาสที่ 2 เช่นกัน
- อิหร่านและชาติตะวันตกจะเจรจาร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 18 มี.ค. นี้ เพื่อหารือต่อเรื่องการลดมาตรการคว่ำบาตร หลังล่าสุดการส่งออกอิหร่านกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
- จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 18-19 มี.ค. นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าทางธนาคารกลางฯ น่าจะยังคงดำเนินนโยบายปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ลงต่อเนื่อง เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
- จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง แม้การผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง El Sharara กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่กการประท้วงที่ยังไม่สิ้นสุดยังคงกดดันให้การผลิตของประเทศยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 250,000 บาร์เรลต่อวัน เท่านั้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม
วันจันทร์ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ - ก.พ.
ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมรัฐนิวยอร์ค - มี.ค.
วันอังคาร ดัชนีราคาผู้บริโภค - มี.ค.
ยอดขอสร้างบ้านใหม่ - ก.พ.
วันพุธ -
วันพฤหัสฯ ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมฟิลาเดลเฟีย- มี.ค.
ยอดขายบ้านมือสอง - ก.พ.
วันศุกร์ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป - มี.ค.
ข่าวเด่น