บมจ.ไทยออยล์ ชี้เศรษฐกิจสหรัฐ-ปัญหาแอฟริกาหนุนน้ำมันดีดขึ้น
+ บมจ.ไทยออยล์ ระบุ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ปรับตัวดีขึ้น โดยจีดีพีสหรัฐฯออกมาดีกว่า รายงานครั้งที่แล้ว เพิ่มจาก 2.4% เป็น 2.6% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ขยายตัว 3.3% มากกว่าที่คาดไว้ที่ 2.6% เนื่องจากผู้บริโภคใช้จ่ายในด้านสุขภาพและสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของสหรัฐฯ ซึ่งจะรวมถึงการบริโภคน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น
+ ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานในสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ที่แล้วปรับลดลง 10,000 มาอยู่ที่ 310,000 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 325,000ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ที่ผ่านมา โดยตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นหลังสภาพอากาศที่หนาวเย็นเมื่อต้นปีผ่านพ้นไปแล้ว
+อย่างไรก็ตามยอดสัญญาซื้อบ้านรอปิดการขายสหรัฐฯเดือนก.พ. ปรับลดลง 0.8% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่ม 0.2% บ่งชี้ถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นเกินปกติในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าสภาพอากาศที่อุ่นขึ้นจะกระตุ้นให้ผู้เล่นกลับเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น
+น้ำมันดิบเบรนท์ได้รับแรงหนุนหลังปริมาณน้ำมันดิบส่งออกจากไนจีเรียในเดือนพ.ค.คาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.59 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ปี 2009 เนื่องจากบริษัท เชลล์ไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบชนิด Forecados ได้หลังจากท่อส่งน้ำมันรั่วจากการลับลอบขโมยน้ำมัน
+วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯผ่านร่างกฏหมายช่วยเหลือวิกฤติยูเครนด้วยคะแนนเสียง 399:19 โดยสหรัฐฯจะให้สินเชื่อยูเครนในวงเงิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯแก่รัฐบาลใหม่ในกรุงเคียฟรวมไปถึงบังคับใช้มาตราการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งร่างกฏหมายนี้จะถูกส่งมอบไปให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาลงนามภายในอาทิตย์นี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการน้ำมันเบนซินในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯในขณะที่อุปสงค์ปรับตัวลดลงจากโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคเข้าสู่ฤดูกาลซ่อมบำรุง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงเล็กน้อยตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปสงค์ส่วนเกินในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามอุปทานมีแนวโน้มตึงตัวขึ้นจากโรงกลั่นในภูมิภาคเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง
ทิศทางราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 96 - 104 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 105-111 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้
- ความไม่แน่นอนของมาตรการณ์คว่ำบาตรรัสเซียโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังคงสร้างความกังวลต่อตลาดน้ำมัน หลังล่าสุดมีข่าวว่าสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปกำลังหารือที่จะยกระดับการคว่ำบาตรรัสเซียให้สูงขึ้น อย่างไรก็ดี บางฝ่ายมองว่าอาจจะยากที่สหภาพยุโรปจะทำได้เพราะปัจจุบันยุโรปพึ่งพาการนำเข้าแก๊สธรรมชาติจากรัสเซียมากถึง 30%
- จับตาว่ากำลังผลิตน้ำมันดิบของลิเบียจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งได้เมื่อไร หลังล่าสุดการผลิตปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 150,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ เฝ้าติดตามว่าบริษัทน้ำมัน Shell จะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบจากไนจีเรียอีกครั้งเมื่อไหร่ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาประกาศหยุดขายกระทันหันเนื่องจากมีปัญหาการขโมยน้ำมันจากท่อส่งน้ำมัน
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่ลดลงในช่วงฤดูการปิดซ่อมโรงกลั่น อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่คุชชิ่ง โอคลาโฮมา ยังปรับลดลงต่อเนื่องหลังท่อขนส่งน้ำมันดิบ Key Stone เปิดใช้ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
- ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรปในวันที่ 3 เม.ย. นี้ ว่านายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานธนาคารกลางฯ จะมีมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจของกลุ่มสหภาพยุโรปอย่างไร ซึ่งอาจกระทบต่อการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปที่ระดับปัจจุบันที่ 0.25%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม
วันศุกร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยุโรป - มี.ค.
วันจันทร์ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของเมืองชิคาโก
วันอังคาร ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ - มี.ค.
ยอดขายรถยนต์สหรัฐฯ - มี.ค.
ดัชนีภาคการผลิตจีน (Official) - มี.ค.
ดัชนีภาคการผลิตจีน (HSBC) - มี.ค.
ดัชนีภาคการผลิตยุโรป (Markit) - มี.ค.
อัตราการว่างงานยุโรป
วันพุธ การจ้างงานภาคเอกชน - มี.ค.
ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน - ก.พ.
วันพฤหัสฯ ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ - มี.ค.
ดัชนีภาคบริการยุโรป (Markit) - มี.ค.
วันศุกร์ อัตราการว่างงานสหรัฐฯ - มี.ค.
ข่าวเด่น