ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้จะยังคงผันผวนในกรอบแคบๆ โดยตลาดยังมีความกังวลเรื่องมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ทั้งยังมีเรื่องการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบที่ลดลงของลิเบียและไนจีเรียที่สร้างความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันตึงตัว อย่างไรก็ดี ตลาดเฝ้าติดตามการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรปที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 เม.ย. นี้ รวมถึงการประกาศตัวเลขภาคการผลิตและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ยุโรปและจีนที่จะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน

 

 

• ความไม่แน่นอนของมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังคงสร้างความกังวลต่อตลาดน้ำมัน หลังล่าสุดมีข่าวว่าสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปกำลังหารือที่จะยกระดับการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยจะรวมถึงการคว่ำบาตรธุรกิจพลังงานด้วย อย่างไรก็ดี ตลาดยังมองว่าอาจเป็นการยากสำหรับสหภาพยุโรปเนื่องจากปัจจุบันยุโรปพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมากถึง 30%

 

• จับตาว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งได้เมื่อใด โดยล่าสุดการผลิตปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 150,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ติดตามว่าบริษัท Shell จะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบจากไนจีเรียอีกครั้งเมื่อใด หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาประกาศหยุดขายกระทันหันหลังจากมีปัญหาการขโมยน้ำมันจากท่อส่งน้ำมันอย่างต่อเนื่อง

 

• การประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรปในวันที่ 3 เม.ย. นี้ ติดตามว่านายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานธนาคารกลางฯ จะมีมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจของกลุ่มสหภาพยุโรปอย่างไร ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจในการปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำที่ 0.25% ต่อไป

 

• ติดตามการประกาศตัวเลขดัชนีชี้วัดภาคการผลิต-บริการ ของสหรัฐฯ ยุโรปและจีน ซึ่งถือเป็นตัวเลขสำคัญที่จะแสดงให้เห็นแนวโน้มของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยเฉพาะตัวเลขของจีนที่หลายฝ่ายคาดว่าจะออกมาแย่ นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการตัดสินใจปรับลดหรือยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

• ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายรถยนต์ ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของเมืองชิคาโกและรัฐดัลลัส รวมถึง ยอดค้าปลีกสหภาพยุโรป

 

 

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 101.67 เหรียญฯ ส่วนดูไบปรับขึ้นเล็กน้อยแต่ยังอยู่ที่ระดับ 104 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ปรับลดลง 0.50 เหรียญฯ ปิดที่ 108.07 เหรียญฯ

 

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาได้รับแรงหนุนจากตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯ ไตรมาส 4/56 ที่ยังคงขยายตัวที่ 2.6% ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่คุชชิง โอกลาโฮมาปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปี นอกจากนี้ เหตุการณ์น้ำมันรั่วที่บริเวณช่องแคบฮุสตันซึ่งทำให้การเดินเรือขนส่งน้ำมันดิบไม่สามารถผ่านช่องแคบนี้ได้ รวมทั้งความไม่สงบในลิเบียที่ทำให้การผลิตน้ำมันดิบลดลง การประกาศหยุดการส่งออกน้ำมันอย่างกระทันหันของไนจีเรีย และความกังวลต่อการคว่ำบาตรรัสเซียส่งผลให้ราคาปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลขภาคการผลิตจีนที่ออกมาต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือน ส่งผลกดดันราคาน้ำมันดิบเบรนท์ให้ปรับตัวลดลง