- ราคาน้ำมันดิบปรับลดจากตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศจีนซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่อันดับสองของโลกปรับตัวลดลง โดยตัวเลขการส่งออกและการนำเข้าในเดือนมี.ค.ลดลง 6.6 % และ 11.3 % ตามลำดับจากปีก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการว่าจะเพิ่มขึ้น 4.8% และ 2.4% ตามลำดับ ส่งผลให้จีนมีการค้าที่เกินดุลที่ 7.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ บ่งชี้ถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่สดใส
- นอกจากนี้ โอเปกปรับการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในปี 2557 ปรับลดลง 0.05 ล้านบาร์เรล์ต่อวันมาอยู่ที่ 29.65 ล้านบาร์เรลต่อวันจากการส่งสัญญานของสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตช้าลงจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่และญี่ปุ่น ประกอบกับอุปทานจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้นักวิเคราะห์คาดว่าความต้องการน้ำมันดิบโลกในปีนี้จะขยายตัว 1.14 ล้านบาร์เรลต่อวันไปอยู่ที่ระดับ 91.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ตัวเลขอุปทานน้ำมันโลกขยายตัว 1.37 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่ 1.34 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งเป็นผลจากน้ำมันดิบที่ผลิตได้เพิ่มขึ้นจากประเทศสหรัฐฯ แคนาดาและบราซิล
+ IMF เปิดเผยตัวเลขอัตราการเติบโตเศรษฐกิจโลกล่าสุดอยู่ที่ 3.6% ในปี 2557 และจะขยายตัวเพิ่มตัวขึ้นเป็น 3.9% ในปี 2558 ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบสี่ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงกังวลถึงเสถียรภาพทางการเงินจากการถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของสหรัฐฯ และการวางนโยบายเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก
+ ตัวเลขผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 เม.ย. ปรับตัวลง 32,000 ราย สู่ระดับ 300,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 50 บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงานในสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯในขณะที่อุปทานตึงตัวและปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯลดลงถึง 5.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้มีการนำเข้าน้ำมันเบนซินจากยุโรปและอินเดียเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานสำหรับน้ำมันดีเซลที่ตึงตัวในช่วงฤดูการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในเอเซีย ในขณะที่อุปสงค์จากตะวันออกกลางปรับเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปผลิตไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน
ทิศทางราคาน้ำมันดิบสัปดาห์หน้า
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 96 - 104 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 103-109 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามองสัปดาห์หน้า
ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกยังคงสร้างความกังวลต่อตลาดน้ำมัน โดยล่าสุดเริ่มมีข่าวว่านาโต้เตรียมใช้กำลังทางทหารหากรัสเซียใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาว่ายูเครนจะตกลงอย่างไรกับรัสเซียหลังรัสเซียยกเลิกการลดราคาแก๊สธรรมชาติ
จับตาว่าลิเบียจะกลับมาเปิดใช้ท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบได้อีกครั้งเมื่อไหร่ หลังกลุ่มกบฎและรัฐบาลหาข้อตกลงร่วมกันได้สำเร็จ โดยตลาดคาดว่าลิเบียจะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้ราว 600,000 บาร์เรลต่อวัน หากท่าเรือทั้งหมดเปิดใช้งานจริง
จับตาปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอคลาโฮมา ที่ล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากปรับลดลงต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังเริ่มปรับลดลงมากก่อนเข้าช่วงท่องเที่ยวหน้าร้อนในสหรัฐฯ
ข่าวเด่น