บมจ.ไทยออยล์ประเมินแนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 21-25 เม.ย. ระบุ ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบที่ลดลง โดยราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากลิเบีย และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันในแถบเอเชีย-แปซิฟิกที่อยู่ในระดับต่ำเนื่องจากเป็นช่วงการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น อย่างไรก็ดี ความไม่สงบในยูเครนอาจเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันให้ปรับลดลงไม่มากนัก
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
• การส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียที่หลายฝ่ายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังล่าสุดท่าเรือ Hariga และ Zueitna ซึ่งมีกำลังการส่งออกรวม 180,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาอยู่ในการดูแลของรัฐบาล โดยท่าเรือ Hariga สามารถทำการส่งออกได้แล้ว อย่างไรก็ดี ยังคงต้องจับตาว่าท่าเรือใหญ่อีกสองแห่ง Ras Lanuf และ Es Sider กำลังการส่งออกรวม 560,000 บาร์เรลต่อวัน จะกลับมาเปิดใช้ได้อีกครั้งเมื่อใด ซึ่งขณะนี้ท่าเรือทั้งสองยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฎ
• คาดว่าตลาดจะผ่อนคลายความกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในยูเครนตะวันออกลงบ้าง หลังล่าสุดสหรัฐอเมริกา , สหภาพยุโรป , รัสเซีย และยูเครน มีมติให้แต่ละฝ่ายยุติความขัดแย้งและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในยูเครน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจมากนัก หลังกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียบุกเข้าสถานที่ราชการและเกิดการปะทะกันเล็กน้อยกับทหารรัฐบาลยูเครน
• ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี หลังมีการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่คุชชิ่งยังคงลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี เนื่องจากมีการส่งน้ำมันไปขายยังโรงกลั่นในแถบอ่าวเม็กซิโกเพิ่มขึ้น หลังมีการเปิดใช้ท่อส่งน้ำมันดิบ KeyStone เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
• ความต้องการใช้น้ำมันดิบในแถบเอเชียแปซิฟิกยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเป็นช่วงที่โรงกลั่นหลายแห่งอยู่ในฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง โดยปกติจะอยู่ในช่วงไตรมาส 2 ของปี
• ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ จีนและยุโรป ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ และยูโรโซน ยอดขายบ้านใหม่-บ้านมือสอง และยอดซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 14 - 18 เม.ย. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 0.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 104.30 เหรียญฯ และเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 2.20 เหรียญฯ ปิดที่ 109.53 เหรียญฯ ขณะที่ดูไบปรับขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ระดับ 105 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาได้รับแรงหนุนจากปัญหาความไม่สงบในยูเครน ซึ่งล่าสุดเกิดการปะทะกันแล้วระหว่างกองกำลังติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียกับกองทหารของรัฐบาลยูเครน ขณะเดียวกันเหตุการณ์ความไม่สงบในไนจีเรียก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดกังวลในเรื่องปัญหาอุปทานตึงตัว อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ลิเบียก็กลับมาเปิดใช้ท่าเรือส่งออกทางตะวันออกได้อีกครั้ง ทำให้ตลาดคลายความกังวลเรื่องอุปทานตึงตัวลงบ้าง
ข่าวเด่น