ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์วิเคราะห์ น้ำมันดิบปรับลด หลังจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯพุ่ง


 

สำนักสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 18 เม.ย. 57 ปรับเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.3 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ แตะ 397.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี สำหรับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลัง ปรับลดลง 0.27 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 0.59 ล้านบาร์เรล


- ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ในเดือน มี.ค. ปรับลดลง 14.5% มาอยู่ที่ 384 ยูนิต ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 455,000 ยูนิต และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งมีสาเหตุมาจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยซึ่งปรับตัวสูงขึ้น และราคาบ้านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคากลางของบ้านใหม่ในเดือน มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้น11.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แตะ 290,000 ดอลลาร์

ขณะที่ความไม่สงบในภาคตะวันออกของประเทศยูเครน ยังคงเป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงไม่มากนัก เนื่องจากตลาดยังคงกังวลว่าชาติตะวันตกจะมีการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลให้รัสเซียซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันดิบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบได้

+ ดัชนีภาคบริการยูโรโซน (Flash PMI) เดือน เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 53.1 จาก 52.2 ในเดือนก่อนหน้า แตะระดับสูงสูงนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2554 ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซนปรับเพิ่มขึ้นเป็น 53.3 จาก 53.0 ในเดือนก่อนหน้า  ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะไม่เปลี่ยนแปลง

+/- นักลงทุนยังคงจับตาการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบจากลิเบีย โดยล่าสุดหลุมผลิตน้ำมันดิบหลายแห่งทางฝั่งตะวันตกยังคงหยุดดำเนินการผลิต เนื่องจากความไม่สงบในประเทศ ส่งผลให้ลิเบียสามารถผลิตน้ำมันดิบราว 220,000 บาร์เรลต่อวัน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยยังมีปัจจัยหนุนจากฤดูการท่องเที่ยวของสหรัฐฯในช่วงเดือน เม.ย ถึง ก.ย. อย่างไรก็ตามตลาดกังวลต่อความต้องการจากอินโดนีเซียที่มีแนวโน้มจะลดลง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของจีนยังคงปรับลดลง หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นในฤดูการเพาะปลูกและการก่อสร้างในจีน


ทิศทางราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 98-106 เหรียญฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 105-11 เหรียญฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้

-เหตุการณ์รุนแรงในยูเครนตะวันออกที่คาดว่าจะผ่อนคลายลงเล็กน้อย หลังล่าสุดสหรัฐฯ ยุโรป รัสเซียและยูเครน มีมติให้แต่ละฝ่ายยุติความขัดแย้งและความรุนแรงที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ยังไม่น่าวางใจหลังกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียยังคงเดินหน้าบุกยึดสถานที่ราชการต่อไป

-ตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ล่าสุดปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี หลังมีการนำเข้ามากขึ้น อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่คุชชิ่งยังคงลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี หลังมีการส่งน้ำมันไปขายยังโรงกลั่นในแถบอ่าวเม็กซิโกเพิ่มขึ้น

-จับตาว่าลิเบียจะกลับมาเปิดใช้ท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบอีก 3 ท่าหลักทางตะวันออกได้อีกครั้งเมื่อไร หลังล่าสุดเปิดใช้ท่าเรือ Hariga ได้แล้ว โดยรัฐบาลกำลังตรียมหารือกับกลุ่มกบฎอีกครั้งเพื่อขอคืนท่าเรือส่งออกทั้งหมด โดยตลาดคาดว่าลิเบียจะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้ราว 600,000 บาร์เรลต่อวัน หากท่าเรือทั้งหมดเปิดใช้งานจริง

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 เม.ย. 2557 เวลา : 12:55:17

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:23 am