ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักและเป็นแหล่งน้ำต้นทุนขนาดใหญ่ที่สุดของลุ่มน้ำเจ้าพระยา(ณ 22 เม.ย. 57) เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 5,457 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,657 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 4,146 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 44 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,296 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมปริมาณน้ำที่ใช้การได้ จำนวน 2,953 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพียงร้อยละ 18 ของความจุอ่างฯรวมกัน
จากสถานการณ์ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งสองแห่ง ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือ คงเหลือปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้ได้เพียงร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯรวมกัน ในขณะที่ยังต้องส่งน้ำเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค และการรักษาระบบนิเวศน์ อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะสิ้นสุดฤดูแล้งในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งยังต้องสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนหน้า ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรัง พบว่ายังคงมีเกษตรกรบางส่วน ได้ทำนาปรังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทางกรมชลประทาน ได้ประกาศงดส่งน้ำสำหรับทำนาปรังไปแล้ว ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อผลผลิตที่อาจจะเกิดขึ้น จึงขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดทำนาปรังต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ว่าฤดูฝนปีนี้มีแนวโน้มจะมาล่าช้ากว่าปกติ จึงต้องสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝน รวมไปถึงในช่วงที่เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมของทุกปีด้วย
ข่าวเด่น