หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 28 เมษายน 2557 "น้ำมันร่วง หลังนักลงทุนเทขายทำกำไร ขณะที่ตลาดจับตาวิกฤติยูเครนส่อเค้าไม่ทวีความรุนแรง"
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลง อันเป็นผลจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุนในตลาดน้ำมันดิบล่วงหน้า โดยตลาดยังคงจับตาใกล้ชิดความไม่สงบในยูเครน ซึ่งล่าสุดกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียยังคงปักหลักยึดอาคารและสถานที่ราชการทางตะวันออกของยูเครนอย่างต่อเนื่องและได้จับกุมกลุ่มผู้สังเกตการณ์จากยุโรปไว้ด้วย เป็นผลให้นานาชาติมีการพิจารณายกระดับมาตรการกาคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี หลังการนำเข้าน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันจากหินดินดานของสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันดิบลดน้อยลงในช่วงที่โรงกลั่นมีการปิดซ่อมบำรุง
-/+ อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงจับตามองการเจรจาเปิดใช้ท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบของลิเบีย โดยล่าสุดกลุ่มผู้ประท้วงยังคงยืนกรานไม่ยอมให้เปิดท่าเรือหลักของประเทศ Es Sider และ Las Lanuf หากรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเสียก่อน ส่งผลให้ปัจจุบันการส่งออกน้ำมันดิบซึ่งถือเป็นรายได้หลักของลิเบียยังคงอยู่ที่ระดับ 220,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น
-/+ ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือน เม.ย. ออกมาแย่กว่าคาดที่ 54.2 ลดลงจาก 55.5 ในเดือนก่อนหน้า อีกทั้งยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 56.2 อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน เม.ย. ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 84.1 จากเดือนก่อนหน้าที่ 82.6 และสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ที่ 82.5
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการในอินโดนีเซียมีน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ดี ยังมีความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจากตะวันออกกลางและแอฟริกาช่วยหนุน ท่ามกลางอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคที่ปรับลดลง อันเป็นผลมาจากเทศกาลปิดซ่อมบำรุง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อันเป็นผลมาจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลจากประเทศแถบแอฟริกา เนื่องจากปริมาณยานพาหนะที่เพิ่มขึ้นมากกว่ากำลังการผลิตในประเทศ ในขณะที่โรงกลั่นในภูมิภาคกำลังอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุง
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยบ์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 99-105 เหรียญฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 105-111 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้
-ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ซึ่งยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี ที่ 397.7 ล้านบาร์เรล อันเป็นผลมาจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นและการนำเข้าน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น
-การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ (28-30 เม.ย.) โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดขนาดวงเงินการกระตุ้นเศรษฐกิจลงอีก 10,000 ล้านดอลลาร์ นอกไปจากนี้ตลาดยังจับตามองการส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ซึ่งถูกตรึงอยู่ในระดับต่ำนานกว่า 5 ปี
- การปิดซ่อมบำรุงตามแผนของหลุมน้ำมันดิบบริเวณทะเลเหนือในช่วงปลายเดือน เม.ย.จนถึงกลางเดือน พ.ค. ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของทะเลเหนือ ปรับลดลงราว 15% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
-การเจรจาเปิดท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบ 3 ท่าหลักทางฝั่งตะวันออกของลิเบีย หากการเจรจาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีจะทำให้ปริมาณการส่งออกปรับเพิ่มขึ้นจาก 0.22 ล้านบาร์เรลต่อในปัจจุบัน มาอยู่ที่ราว 0.6 ล้านบาร์เรล
- ติดตามเหตุการณ์ความรุนแรงใน 9 เมืองทางฝั่งตะวันออกยูเครน ภายหลังกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียได้เข้ายึดสถานที่ราชการและปะทะกับทหารของรัฐบาล โดยสหรัฐฯ และยุโรปได้แถลงชัดเจนว่า หากรัสเซียยังเดินหน้าแทรกแซงทางการเมืองต่อยูเครน และสนับสนุนเหตุรุนแรงในเมืองฝั่งตะวันออกของประเทศต่อไป จะมีการยกระดับการคว่ำบาตรต่อรัสเซียขึ้น
ข่าวเด่น