ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดบวกเล็กน้อย 1.10 จุด มาอยู่ที่ 1,412.33 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง เพียง 26,266 ล้านบาท
ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ 413 ล้านบาท คงการ Short สุทธิใน Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 627 สัญญา แต่คงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 2,741 ล้านบาท สะท้อนกระแสเงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุนต่อเนื่อง
ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ MBKET ประเมินแกว่งในกรอบระหว่าง 1,405-1,415/20 จุด เช่นเดียวกับวานนี้ แม้ว่ากระแสเงินทุนต่างชาติจะชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทยตลอด 2 วันทำการที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะนักลงทุนกลุ่มนี้ต่างรอดูผลการประชุมเฟดคืนนี้ ต่อการพิจารณาวงเงิน QE ซึ่ง Bloomberg consensus คาดปรับลดลงเป็น US$4.5 หมื่นล้าน/เดือน แต่ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอโมเมนตัม อาจทำให้เฟดลดวงเงิน QE น้อยกว่าคาดได้
นอกจากนี้ MBKET แนะนำให้นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมี.ค. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวเลขการบริโภคภายในประเทศ และ จำนวนนักท่องเที่ยว ฟื้นตัวจากเดือนก.พ.หรือไม่ หลังดุลการค้าเกิดดุลตลอด 2 เดือน อาจทำให้ GDP ใน 1Q57 หดตัวไม่แรงอย่างที่ตลาดกังวล -1.5% qoq ดังที่ รมว.คลัง รักษาการ ส่งสัญญาณ GDP ในไตรมาสแรกอาจหดตัวลงไม่ถึง 1.0% qoq
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาว บวกกับความกังวลต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองในวันที่ 6 พ.ค. ทำให้มูลค่าการซื้อขายมีแนวโน้มเบาบางในช่วง 2 วันทำการนี้
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้นักลงทุน “เข้าเก็งกำไรแบบจำกัดวงเงิน” หุ้นที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัว หรือปัจจัยด้านผลการดำเนินงานเป็นสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” IVL / SAMART
Portfolio
Top Pick in 2Q14: SAMART / SPCG / GOLD
HOLD: SCC/ SPALI/ TTA/ SAMART/ IVL
Speculative Buy: IVL / SAMART
Technical View
แนวรับ 1400 +/- และ 1380 +/- จุด แนวต้าน 1415 +/- และ 1425 +/- จุด ต้องปิดทะลุผ่านแนว 1415+/- ให้ได้จึงจะเริ่มเป็นสัญญาณดีขึ้น
Action and Stock of the Day
SET INDEX แกว่งในกรอบแคบ วอลุ่มเบาบาง
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ปิดบวก – ลบ สลับกัน โดย HSKI +1.45% dod จากแรงซื้อในกลุ่มเทเลคอมเป็นสำคัญ ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เป็นกลาง ปิดลบเช่นกัน
ด้านตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งในกรอบแคบ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขึ้น XD ของหุ้นหลายตัว มีผลต่อ SET INDEX ราว 2.0 จุด บวกกับเป็นช่วงใกล้คาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย และความกังวลต่อประเด็นการเมืองในวันที่ 6 พ.ค. ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุน สะท้อนกลับมายังมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงเหลือ 26,266 ล้านบาทเท่านั้น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกเพียง 1.10 จุด มาอยู่ที่ 1,412.33 จุด
กลุ่มที่ปิดบวกดีที่สุด ได้แก่ กลุ่ม Professional +4.34%, กลุ่ม Paper +1.84% และกลุ่มโรงพยาบาล +1.62% ส่วนกลุ่มหลักอย่างกลุ่มธนาคาร -0.23%, กลุ่มพลังงาน -0.88% และกลุ่ม ICT +0.73%
SET INDEX ช่วงสั้นนี้แกว่งในกรอบระหว่าง 1,405-1,425 จุด
จับตาตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมี.ค. รายงานโดย ธปท. วันนี้
กลยุทธ์การลงทุน เน้นเก็งกำไรรายตัวเป็นหลัก
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1. ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนมี.ค.: ธปท. ทยอยรายงานในช่วงสายของวันนี้ ทั้งนี้ตัวเลขที่สำคัญได้แก่
การบริโภคภายในประเทศ มีโอกาสที่จะลดลงในอัตราที่ชะลอตัวลง หลังรัฐบาลเร่งทยอยคืนเงินจำนำข้าว
จำนวนนักท่องเที่ยว มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น mom เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลสำคัญในเดือนเม.ย. และการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
2. GDP ไทยใน 1Q57 อาจไม่แย่อย่างที่คิด: วานนี้ รมว.คลัง รักษาการ กิตติรัตน์ ส่งสัญญาณ GDP ใน 1Q57 จะหดตัวไม่ถึง 1.0% qoq เทียบกับที่ Bloomberg consensus คาด -1.5% qoq ซึ่ง MBKET ประเมินเบื้องต้น มีความเป็นไปได้เช่นกัน หาก
ตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนมี.ค. เริ่มทรงตัวถึงฟื้นตัว จากเดือนก.พ. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบริโภคภายในประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยว
ดุลการค้า 1Q57 กลับมาเกินดุล ช่วยชดเชยภาพการส่งออกที่ไม่ฟื้นตัวใน 1Q57
3. ติดตามการประชุมธนาคารกลางที่สำคัญในวันนี้
BoJ: อาจมีความเป็นไปได้ที่ BoJ เพิ่มวงเงิน QE จากปัจจุบัน 7.0 แสนล้านเยน/ปี หลังภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่น เริ่มสูญเสียโมเมนตัมเชิงบวก
FOMC: ประเด็นสำคัญอยู่ที่ การพิจารรณาวงเงิน QE ซึ่ง Bloomberg consensus คาดว่าจะลดลงจากปัจจุบันที่ US$5.5 หมื่นล้าน/เดือน เป็น US$4.5 หมืนล้าน/เดือน แต่หากพิจารณาถึง การจ้างงานที่เริ่มเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงยอดขายบ้านที่ชะลอตัว อาจมีความเป็นไปได้ที่ เฟด จะพิจารณาลดวงเงิน QE ไม่ถึง US$1.0 หมื่นล้าน อย่างที่ตลาดคาด หากเป็นไปตามคาด จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย
4. ติดตามการหารือระหว่าง กกต. และ นายกฯ รักษาการยิ่งลักษณ์: วันนี้ ต่อแนวทางการจัดการเลือกตั้ง เบื้องต้น กกต. กำหนดเป็นวันที่ 20 ก.ค. รวมถึง หัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ ที่จะเข้าพบ กกต. เช่นกัน
5. คืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1. IVL : ราคาปิด 23.10 บาท ราคาเหมาะสม 24.50 บาท
a) MBKET คาดว่าผลประกอบการ 1Q57 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิ 445 ล้านบาท เทียบกับ 4Q56 ที่ขาดทุนสุทธิ 469 ล้านบาท และหากไม่รวมผลขาดทุนจากสต็อกที่สูงถึง 1,100 ล้านบาท เราคาดว่ากำไรปกติ 1Q57 จะเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq เป็น 1.4- 1.5 พันล้านบาท
b) คาดกำไรปกติ 2Q57 เติบโตต่อเนื่อง qoq จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และส่วนต่างราคา PET, PTA ที่ปรับตัวขึ้น นอกจากนั้น คาดว่าจะไม่มีผลขาดทุนสต็อกเช่นเดียวกับ 1Q57 จึงคาดว่าผลประกอบการ 2Q57 จะเห็นการเติบโต qoq ทั้งกำไรปกติและกำไรสุทธิ
c) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกจากแผนเข้าซื้อกิจการ โดยคาดว่าจะประกาศเข้าซื้อกิจการได้ในเดือน พ.ค.อีก 1 รายการ และ 3Q57 อีก 1 รายการ และส่งผลบวกต่อกำลังการผลิต PET ให้เพิ่มขึ้น
d) เราเชื่อว่าผลประกอบการของ IVL ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วในปี 2556 ที่ผ่านมา และปี 2557 คาดว่าจะพลิกเป็นกำไรปกติ 3,511 ล้านบาท จากผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 875 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
e) นอกจากนั้น การไต่ระดับขึ้นของราคาฝ้ายวานนี้เป็น US$0.945/ปอนด์ หรือ +2.1% dod เป็นอีก Sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้น IVL
2. SAMART : ราคาปิด 20.50 บาท ราคาเหมาะสม 24.40 บาท
a) SAMART จะจัดประชุมนักวิเคราะห์ เพื่อ Preview ผลประกอบการ 1Q57 ในวันนี้ และเราเชื่อว่า Consensus จะมีมุมมองเชิงบวกหลังเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหาร เนื่องจากผลประกอบการ 1Q57 จะขยายตัวทั้ง yoy และ qoq
b) เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q57 ที่ 390 ล้านบาท +10.5% yoy และ 6.9% qoq จาก 1Q56 ที่ 353 ล้านบาท และ 4Q56 ที่ 365 ล้านบาท
c) ทิศทางผลประกอบการ 2Q57 จะขยายตัวต่อเนื่องทั้ง yoy และ qoq จากแรงหนุนของธุรกิจ Set Top Box สำหรับ Digital TV เนื่องจาก SAMART เป็น 1 ใน 9 บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. เพื่อให้ภาคครัวเรือนสามารถนำคูปองมูลค่า 1,000 บาท เพื่อแลกซื้อ Set Top Box ได้
d) และเราเชื่อว่าเป้าหมายของบริษัทเพื่อจำหน่าย Set Top Box ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านเครื่อง ในปี 2557 มีความเป็นไปได้สูง เมื่อเทียบกับคูปองทั้งสิ้นที่จะแจกให้กับภาคครัวเรือนในเฟสแรกจำนวน 22.8 ล้านครัวเรือน เนื่องจากสินค้าของบริษัทมีคุณภาพสูง และเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของประเทศ
e) ดังนั้น ด้วยแรงผลักดันของทุกธุรกิจ จะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2557 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1,725 ล้านบาท +17.0% yoy และ Valuation ยังน่าสนใจ โดยซื้อขาย PER 2557 เพียง 11.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มสื่อสารที่ราว 15 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีราว 5% ต่อปี
What will DJIA move tonight?
คืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน และ GDP ใน 1Q57
ข่าวเด่น