นายนพดล ปัทมะ กรรมการกิจการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ไม่เหนือความคาดหมายที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง โดยตัดสินว่าไปก้าวก่ายแทรกแซงการโยกย้ายนายถวิล รวมทั้งรัฐมนตรีที่ร่วมประชุมในวันนั้น โดยเนื้อหาในคำตัดสินส่วนใหญ่พูดถึงการกระทำของนายกฯ และ ครม. เสียยืดยาว แต่ใช้เวลาสั้นๆ พูดถึงเหตุผลของรัฐบาลที่ต้องโยกย้ายนายถวิล ซึ่งศาลให้น้ำหนักและความจำเป็นในการย้ายนายถวิลน้อยเกินไป วันนี้ก็ชัดเจนว่าหลักการแบ่งแยกอำนาจ ที่ให้อำนาจบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ ตรวจสอบถ่วงดุลกันนั้นถูกทำลายลง จนมีคนตั้งคำถามว่า อำนาจของฝ่ายบริหารที่มาจากประชาชนถูกครอบงำโดยอำนาจตุลาการเกินไปแล้วหรือไม่ เพราะการโยกย้ายข้าราชการประจำเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่ต้องจัดคนให้เหมาะสมกับงาน
ประเทศไทยมีประชาธิปไตยแค่เพียงรูปแบบ แต่ในเนื้อหาความเป็นประชาธิปไตยแทบไม่เหลือแล้ว เพราะกลไกต่างๆ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน เช่นวุฒิสภา ก็มีสมาชิกเพียงครึ่งเดียว ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน จึงไม่ได้ตระหนักในสถานะและหน้าที่ของตนเองพรรคเพื่อไทยเห็นว่าคำวินิจฉัยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและหลักกฎหมาย และคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็คงไม่เห็นด้วย และจะคัดค้านคำวินิจฉัยและไม่เห็นด้วยตามกรอบกฎหมายโดยสันติวิธี และคิดว่าการชุมนุมของพี่น้องคนเสื้อแดง คงมีคนมาร่วมชุมนุมคัดค้านศาลรัฐธรรมนูญเป็นจำนวนมาก แต่การคัดค้านคงจะสงบและสันติ ส่วนรัฐนมตรีที่ไม่ถูกตัดสินให้ออกจากตำแหน่ง คงต้องทำหน้าที่ต่อไป และเดินหน้าการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง เพราะประเทศเราเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมามากแล้ว ต้องให้ประชาชนใช้อำนาจผ่านการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด
ข่าวเด่น