ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐปิดเมื่อคืน (10 มิ.ย.) บวก 2.82 จุด ที่ 16,945.92 จุด หรือ +0.02% ส่วนดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,338.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.76 จุด หรือ +0.04% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,950.79 จุด ลดลง 0.48 จุด หรือ -0.02%
โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กในช่วงเปิดตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ที่สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) ระบุ ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็ก ปรับตัวขึ้น 1.4 จุด สู่ระดับ 96.6 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 95.2 ในเดือนเม.ย.ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ระบุ สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 1.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.1% เช่นกันในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม การซื้อขายในช่วงใกล้ท้ายตลาดค่อนข้างซบเซาลง เนื่องจากนักลงทุนมองดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้ชะลอการซื้อขายลง
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดเมื่อคืนนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 349.71 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,595.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.88 จุด หรือ +0.13% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,028.80 จุด เพิ่มขึ้น 20.17 จุด หรือ +0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,873.55 จุด ลดลง 1.45 จุด หรือ -0.02% โดยสาเหตุที่หนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นมาจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนเงินเฟ้อให้สูงขึ้น โดยมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.15% จากระดับเดิม 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด ทำให้นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกที่หนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับฐานขึ้น
ข่าวเด่น