ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,306.70-1,321.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM14 อยู่ที่ 20,190 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 510 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,760 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM14 อยู่ที่ 640 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 640 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น. ของวันที่ 20/06/14)
สถานการณ์ความไม่สงบโดยกลุ่มกบฏในอิรัก และธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐประจำปี 2557 ลง หนุนราคาทองคำให้การพุ่งทะยานขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่มีคำสั่งซื้อชดเชยการทำชอร์ตเซลเข้ามา หลงัจาก ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ส่งที่ปรึกษาด้านการทหาร 300 คน ไปยังอิรักและประกาศความพร้อมที่สหรัฐจะดำเนินการโจมตีทางอากาศแบบตั้งเป้าหมายเฉพาะเจาะจง เพื่อต่อสู้กับกลุ่มกบฏรัฐอิสลามแห่งอิรั หรือ ISIL ซึ่งโรงกลั่นน้ำมันในอิรักถูกปิดล้อมอยู่ ขณะที่กองทัพของรัฐบาลอิรักพยายามต้านทานกลุ่มกบกฎ ถ้าหากโรงกลั่นแห่งนี้ปิดทำการต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ยืดเยื้อ รัฐบาลอิรักจำเป็นต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดน้ำมันตึงตัวมากยิ่งขึ้น และ ดันราคาทองคำขยับขึ้นได้ต่อ
ขณะที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เปิดเผยว่ามีกองกำลังรัสเซียจำนวนหลายพันนายประจำการอยู่ที่ชายแดนฝั่งตะวันออกของยูเครน แม้รัสเซียและยูเครนมีแผนหยุดยิงเพื่อยุติการสู้รบของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนผู้ฝักใฝ่รัสเซียก็ตาม แต่ยังคงเกิดการสู้รบกันอย่างดุเดือดดำเนินไปเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในภาคตะวันออกของยูเครน ทั้งนี้ รัฐบาลยูเครนเปิดเผยว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดน เสียชีวิตไปราว 300 ราย ขณะที่ทหารของฝ่ายรัฐบาลเสียชีวิต 7 นาย การสู้รบครั้งใหม่เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนผู้ฝักใฝ่รัสเซียปฏิเสธ ที่จะวางอาวุธตามแผนสันติภาพ 14 ขั้น ซึ่งตลาดทองคำกำลังจับตาประเด็นวิกฤติยูเครน ซึ่งในระยะสั้นยังคงเป็นปัจจัยบวกหนุนให้มีแรงซื้อรับอย่างต่อเนื่องเมื่อราคาอ่อนตัวลง ทั้งนี้ ความวิตกที่ว่ารัสเซียอาจจะบุกยูเครนและอาจถูกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตกเพิ่มเติม ประกอบกรณีพิพาทเรื่องราคาก๊าซรัสเซีย ซึ่งทำให้ยูเครนระงับการจ่ายค่าก๊าซ ส่งผลให้รัสเซียยุติการส่งก๊าซ ปัจจัยทั้งมวลได้เป็นแรงหนุนการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และส่งผลบวกต่อแนวโน้มทิศทางราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และราคาทองคำเริ่มกลับมามีแรงซื้อจนเกิดการดีดตัวขึ้น ราคาทองคำอาจจะขยับขึ้นสู่แนวต้านในบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป โดยหากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,327-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ในระยะสั้น หากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ซึ่งการอ่อนตัวลงของของราคาไม่ควรหลุดระดับ 1,300-1,295 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,300 (19,950บาท) 1,285 (19,720บาท) 1,276 (19,580บาท)
แนวต้าน 1,320 (20,260บาท) 1,327 (20,370บาท) 1,337 (20,520บาท)
GOLD FUTURES (GFM14)
แนวรับ 1,300 (20,060บาท) 1,285 (19,830บาท) 1,276 (19,690บาท)
แนวต้าน 1,320 (20,370บาท) 1,327 (20,480บาท) 1,337 (20,630บาท)
SILVER FUTURES (SVM14)
แนวรับ 20.35 (631 บาท) 20.10 (623 บาท) 19.70 (610 บาท)
แนวต้าน 20.90 (649 บาท) 21.15 (657 บาท) 21.50 (668 บาท)
ข่าวเด่น