ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 มิถุนายน 2557) โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,937.26 จุด ลดลง 9.82 จุด หรือ -0.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,368.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.64 จุด หรือ +0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,962.61 จุด ลดลง 0.26 จุด หรือ -0.01%
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 346.31จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,515.57 จุด ลดลง 25.77 จุด หรือ -0.57% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,920.92 จุด ลดลง 66.32 จุด หรือ -0.66% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,800.56 จุด ลดลง 24.64 จุด หรือ -0.36% โดยตลาดหุ้นยุโรปรับตัวลงหลังผลสำรวจของมาร์กิตแสดงให้เห็นว่า ดัชนี PMI เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลงแตะ 52.8 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 53.5 ในเดือนพ.ค.
ส่วนตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนบวก เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 57.5 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 56.4 ในเดือนพ.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่สู่ระดับ 56
ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนพ.ค.สู่ระดับที่ระดับ 4.89 ยูนิต ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 4.75 ล้านยูนิต และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก้เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศปรับตัวขึ้นแตะ +0.21 ในเดือนพ.ค. จาก -0.15 ในเดือนเม.ย.
ข่าวเด่น