สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET +2.51 จุด Window Dressing & เงินนอกไหลเข้าต่อ
SET แกว่งแดนบวกทั้งวันในกรอบ 1484-93 โดยปรับขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน จากมีแรงซื้อ Window Dressing และต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่สอง 2.39 พันลบ. และ Long SET50 Index Futures 1.74 พันสัญญา เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดีทั้งเดือน มิ.ย. ต่างชาติขาย 357 ลบ. และ Short 2.21 หมื่นสัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้: ขยับขึ้น PMI ภาคผลิตจีนใน มิ.ย. สูงสุดรอบ 6 เดือน
หุ้นโลกเมื่อวาน (1 ก.ค.) บวกกันถ้วนหน้า ขานรับ PMI ภาคผลิตจีนในเดือน มิ.ย. ขึ้นแตะสูงสุดรอบ 6 เดือน ที่ 51.0 ตามคาด โดยปรับขึ้นจาก 50.8 ใน พ.ค. ทำให้นลท.มองเชิงบวกต่อความต้องการจากจีน อย่างไรก็ดี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ แย่กว่าคาด โดยปรับลงจาก 55.4 ใน พ.ค. มาที่ 55.3 ใน มิ.ย. vs คาดที่ 55.9 มอง SET แกว่งขึ้นตามหุ้นโลกเมื่อคืน และหุ้นภูมิภาคเช้านี้ที่ส่วนใหญ่ปรับขึ้น นอกจากนี้รธน.ปกครองปท.ชั่วคราวใกล้คลอดเต็มที่ รอ คสช.สอบทานความเรียบร้อยอีกรอบเท่านั้น (เพิ่ม 2 มาตราเกี่ยวกับการกระทำและคำสั่งของคสช.ชอบด้วยกฎหมาย) ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของต่างชาติที่เริ่มพลิกกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามกระแสเงินทุนไหลเข้าของต่างชาติอีกสัก 2-3 วันว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ มองแนวต้าน 1495-1500 แนวรับ 1477-80
กลยุทธ์การลงทุน: ขึ้นต่อเน้นขายทำกำไร ทยอยถือเงินสดรอจังหวะเข้ารอบใหม่
สัปดาห์นี้ (30 มิ.ย. – 4 ก.ค.) TISCO Weekly Guru แนะนำลดพอร์ตลงทุนหุ้นลงจาก 60% เหลือ 40% โดยไม่มีหุ้นเด่นแนะนำใหม่สำหรับสัปดาห์นี้ มีเพียงหุ้นที่ถืออยู่ติดพอร์ตจากสัปดาห์ที่แล้ว คือ KTB, HMPRO, THCOM, SIM โดยมองโอกาส SET จะยืน 1482 ในวันศุกร์ที่ 4 ก.ค. มีราว 40% เรามองภาพการลงทุนเดือน ก.ค. ต้องใช้ความระมัดระวังสูง เพราะน่าจะมีแนวโน้มผันผวน หลัง SET Index ในปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาเกือบถึงระดับ 1500 จุด สะท้อนการคาดหวังเชิงบวกจากนโยบายการฟื้นฟูประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่เรามองว่าการลงมือสู่ภาคปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต้องใช้เวลาในการขับเคลื่อน ไม่รวดเร็วดั่งราคาหุ้นที่ขยับขึ้น (มี Execution Risk) จึงอาจทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาได้ในไม่ช้านี้ นอกจากนี้ ในแง่ของการประเมินมูลค่า SET Index ในปัจจุบันค่อนข้างตึงตัวมาก โดยคิดเป็น Forward PER 12 เดือนข้างหน้าที่ 12.7 เท่า ซึ่งค่อนข้างสูง ทั้งนี้เนื่องจากในอดีตช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ระดับ Forward PER ที่มากกว่า 12.5 เท่าถือว่าเป็นจุดอันตราย เพราะมักจะตามด้วยการปรับตัวลงเฉลี่ย 7-8% ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า สำหรับประเด็นการลงทุนเดือน ก.ค. เรามองหุ้นงบ Q2 ที่คาดว่าจะออกมาดี และ/หรือหุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาลดี จะเป็นเป้าหมายการลงทุนหลักในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ก.ค. คือ ANAN, BECL, DEMCO, INTUCH, PTTGC, SCB, STEC, THCOM (รายละเอียดเพิ่มเติมดู กลุยทธ์การลงทุน หน้า 7)
หุ้นเด่นรายวันไม่มี
ปัจจัยติดตาม
2 ก.ค.
USคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ ใน พ.ค., การจ้างงานภาคเอกชนทั่วปท. (ADP) ใน มิ.ย.
3 ก.ค.
JPตัวเลข PMI ภาคบริการและรวม (Markit) ของญี่ปุ่นในเดือน มิ.ย.
CHตัวเลข PMI ภาคบริการและรวมของจีนในเดือน มิ.ย.
EUประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB)
EUตัวเลขยอดค้าปลีกของสหภาพยุโรปใน พ.ค., PMI ภาคบริการและรวมทุกภาคใน มิ.ย.
USตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค., ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย.
USตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย.
USตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 28 มิ.ย.
ข่าวเด่น