สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET +7.38 จุด ทะลุ 1500 จุด ปิดสูงสุดรอบ 1 ปี
SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1498-1506 โดยปิดเหนือระดับ 1500 จุดสำเร็จ ทำจุดสูงสุดรอบ 1 ปี มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงานและสื่อสาร ผลักดันดัชนี ต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 1.71 พันลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้: แกว่งไร้ทิศทางออกข้าง SET 1500 ยังไม่เสถียร
หุ้นโลกเมื่อคืน (7 ก.ค.) ปรับลงถ้วนหน้า โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลง หลังจากที่ขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กใน Russell 200 Index ร่วง 1.8% ทั้งนี้ JP Morgan และ Goldman Sachs ปรับคาดการณ์การขึ้นอัตราดบ.ของ FED ครั้งแรกเร็วขึ้นเป็นไตรมาส 3/58 จากเดิมที่คาดไว้ในช่วงไตรมาส 4/58 หลังตัวเลขการจ้างงานแข็งแกร่งมาก ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับลงเช่นกัน จากแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง จากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันร่วง 1.8% MoM ใน พ.ค. แย่ลงต่อเนื่องจาก -0.3% MoM ใน เม.ย. และคาดที่ +0.0% MoM อย่างไรก็ดี ภาพรวมมูลค่าการซื้อขายทั้งในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปไม่หนาแน่น เนื่องจากกำลังรอผลประกอบการที่กำลังจะประกาศในช่วงสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ เช่น Alcoa, Wells Fargo และ Citigroup ในวันอังคารที่ 8 ก.ค., วันพฤหัสที่ 11 ก.ค. และวันจันทร์ที่ 14 ก.ค. ตามลำดับ ด้านปัจจัยในปท. คสช.กำลังดำเนินการตรวจสอบโกดังข้าวต่อเนื่อง และร่าง รธน.ปกครองปท.ชั่วคราวใกล้เตรียมทูลเกล้าฯ ช่วยกระตุ้นแรงซื้อจากต่างชาติและนลท.สถาบันในปท.ได้ในระยะสั้น มอง SET ระดับ 1500 ยังไม่เสถียร เสี่ยงเจอแรงขายทำกำไรระยะสั้น ทำให้ยังแกว่ง แนวรับ 1495-1498 แนวต้าน 1510-20
กลยุทธ์การลงทุน: ยังอยู่ฝั่งทยอยขายลดพอร์ต ถือเงินสดเพิ่ม
สัปดาห์นี้ (7-10 ก.ค.) TISCO Weekly Stock Guru คงพอร์ตลงทุนหุ้นไว้ที่ 40% เนื่องจากยังมีมุมมองที่ระมัดระวัง และมอง upside การขึ้นของ SET เริ่มจำกัด หุ้นแนะนำสำหรับสัปดาห์นี้ เน้น (1) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคในปท.ที่เริ่มฟื้นตัว (สังเกตได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิ.ย. ขึ้น 2 เดือนติด สูงสุดในรอบ 8 เดือน) อาทิ GLOBAL, LH, SAMART (2) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของศก.โลก และดัชนีค่าระวางเรือที่น่าจะแตะจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้ว ชอบ TTA เรามองภาพการลงทุนเดือน ก.ค. ต้องใช้ความระมัดระวังสูง เพราะการลงมือสู่ภาคปฏิบัติของคสช.ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต้องใช้เวลาในการขับเคลื่อน (มี Execution Risk) นอกจากนี้ ในแง่ของการประเมินมูลค่า SET ค่อนข้างตึงตัวมาก โดยคิดเป็น Forward PER 12 เดือนข้างหน้าที่ 12.7 เท่า ซึ่งค่อนข้างสูง ทั้งนี้ในอดีตช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ระดับ Forward PER ที่มากกว่า 12.5 เท่าถือว่าเป็นจุดอันตราย เพราะมักตามด้วยการปรับตัวลงเฉลี่ย 7-8% ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า สำหรับประเด็นการลงทุนเดือน ก.ค. เรามองหุ้นงบ Q2 ที่คาดว่าจะออกมาดี และ/หรือหุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาลดี จะเป็นเป้าหมายการลงทุนหลักในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ก.ค. คือ ANAN, BECL, DEMCO, INTUCH, PTTGC, SCB, STEC, THCOM
หุ้นเด่นรายวันLH
LH – เราคาดว่า LH จะมียอดการยกเลิกการจองที่ต่ำ ทำให้มีความเสี่ยงน้อยที่ผลประกอบการจะพลาดเป้าจากประมาณการของเรา เรามองผลประกอบการ 2Q57F คาดว่าจะเริ่มดีขึ้น QoQ และผลประกอบการจะเติบโตดีสุดในช่วง 4Q57 บริษัทจะเปิดตัวหลายโครงการใน 3Q57 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดจองได้ตามเป้าที่ 3.2 หมื่นลบ.ในปีนี้ (+6% YoY) นอกจากนี้ LH อาจออกกองทุนอสังหาฯ มูลค่าเหมาะสม 12 บ. (SOTP)
ปัจจัยติดตาม
8 ก.ค.
JPตัวเลขดุลการค้าและบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน พ.ค.
GEตัวเลขส่งออก-นำเข้า, ดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดของเยอรมันในเดือน พ.
9 ก.ค.
CHตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค-ผู้ผลิตของจีนในเดือน มิ.ย.
USรายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) 17-18 มิ.ย.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
ข่าวเด่น