แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (14 – 18 ก.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยราคาได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียที่มีแนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้น หลังท่าเรือใหญ่ 2 แห่ง และแหล่งผลิตน้ำมันหลักของประเทศกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง ขณะที่เหตุการณ์ในอิรักที่ไม่กระทบต่อการส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ในยูเครนยังคงมีความไม่แน่นอน โดยอาจจะยืดเยื้อต่อไป
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
· การส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นยังคงปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันลงต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ หลังล่าสุดแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ El Sharara ซึ่งมีกำลังผลิต 340,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง ขณะที่ท่าเรือหลัก El Sider และ Ras Lanuf กลับมาเปิดใช้การได้อีกครั้งเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อาจต้องใช้เวลาในการซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมันและอุปกรณ์การส่งออกน้ำมันที่เกี่ยวข้องหลังจากที่หยุดใช้งานมานานเกือบปี
· เหตุการณ์ในอิรักที่ลดความรุนแรงลงและไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันดิบทางตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว อย่างไรก็ตาม จับตาการแยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระของชาวเคิร์ด ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิรักที่อาจส่งผลให้การส่งออกจากอิรักทางตอนเหนือประสบปัญหา โดยปัจจุบันการส่งออกน้ำมันดิบจากบริเวณดังกล่าวอยู่ที่ราว 300,000 บาร์เรลต่อวัน
· จับตาเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างกองทัพรัฐบาลยูเครนกับกบฎแบ่งแยกดินแดนฝักฝ่ายรัสเซียในยูเครนตะวันออกว่าจะกลับมารุนแรงอีกครั้งหรือไม่ หลังตัวแทนรัฐบาลยูเครนย้ำจะไม่ยอมหยุดยิงฝ่ายเดียวอีกต่อไป โดยประธานาธิบดีโปโรเชนโกไม่ต่ออายุมาตรการหยุดยิงฝ่ายเดียวที่สิ้นสุดไปเมื่อ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่แกนนำของกบฎแบ่งแยกดินแดนฝักฝ่ายรัสเซียในยูเครนเตรียมตัวตอบโต้กลับกองทัพยูเครนอย่างต่อเนื่อง
· ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ยุโรป และจีน ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ และจีน จีดีพี ไตรมาส 2/57 ของจีน ยอดขอสร้างบ้านใหม่และดัชนีตลาดบ้านสหรัฐฯ และความรู้สึกผู้บริโภคสหรัฐฯ
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (7 – 11 ก.ค. 57)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 2.94 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 100.83 เหรียญฯ และเบรนท์ปรับลดลง 3.98 เหรียญฯ ปิดที่ 106.66 เหรียญฯ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดเช่นกันมาอยู่ที่ระดับ 105 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมาก หลังกองกำลังไอซิลในอิรักไม่สามารถบุกเข้าถึงเมืองแบกแดดได้ อีกทั้งรัฐบาลอิรักยังให้การยืนยันว่าความไม่สงบในประเทศจะไม่ส่งผลต่อการส่งออกน้ำมันดิบราว 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกัน ตลาดได้คลายความกังวลลงมาก หลังจากท่าเรือส่งออกและแหล่งผลิตน้ำมันหลักของประเทศลิเบียกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งและส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าลิเบียจะสามารถเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบได้อีกกว่า 300,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ก.ค. จาก 3 สถาบันพลังงานหลักของโลก ได้แก่ สำนักงานพลังงานสากล(IEA) สำนักสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) และโอเปกที่มีการคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีหน้ามีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงแผนการปิดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตน้ำมันดิบในแถบทะเลเหนือที่แม้จะปรับลดลงเล็กน้อยแต่ยังคงสร้างความกังวลต่อภาวะอุปทานตึงตัวของน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค. และมีส่วนสนับสนุนราคาได้บ้าง
ข่าวเด่น