องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย เผยผลการสำรวจดัชนีคอร์รัปชั่นครั้งที่ 2 สิ้นสุดในเดือนมิถุนายน ตามที่กำหนดจัดสำรวจทุก 6 เดือน โดยสำรวจประชาชนทั่วประเทศ จากกลุ่มตัวอย่าง 2,400 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือกลุ่มตัวอย่างประชาชนจำนวนร้อยละ 52.2 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด กลุ่มตัวอย่างข้าราชการร้อยละ 24.2 และกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการ ภาคเอกชนร้อยละ 23.6 พบว่าสถานการณ์คอร์รัปชั่นในการสำรวจครั้งนี้ "ดีขึ้น" กว่าการสำรวจ 3 ปีที่ผ่านมา โดยดูจาก ปรากฏการณ์ด้านคนโกง พบว่าอัตราเรียกสินบนที่ลดลงจาก เฉลี่ยร้อยละ 25-35 เหลือร้อยละ 15-25, จำนวนพ่อค้าและประชาชนที่ถูกรีดไถลดลง, คะแนนความรุนแรงของคอร์รัปชันโดยรวม ลดลงจากระดับ 75 เหลือ 54, ความเสียหายของประเทศที่จะเกิดจากคอร์รัปชันลดลง
ส่วนปรากฏการณ์ด้านประชาชน พบว่าความตื่นตัวและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสถานการณ์ การปราบปรามคอร์รัปชั่นดีขึ้น, ความกระตือรือร้นของประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วมในการต่อต้านคอร์รัปชั่นมากขึ้นและความเข้าใจของประชาชนและปฏิเสธพฤติกรรมที่คอร์รัปชั่นสูงขึ้นต่อเนื่อง และโดดเด่นมาก ตั้งแต่มีการเคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีโกง โดยเห็นได้จากการสำรวจ CSI เมื่อเดือนธันวาคมและการสำรวจครั้งนี้
โดยในคำถาม "การทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องไกลตัว-การให้สินน้ำใจหรือเงินพิเศษเล็กๆ น้อยๆ แก่เจ้าหน้าที่ไม่ใช่เรื่องเสียหาย และการที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่นแต่มีผลงานเป็นเรื่องที่รับได้" กลุ่มตัวอย่างที่ตอบว่า ไม่เห็นด้วยมีมากกว่าร้อยละ 80
องค์กรต่อต้านคอรัปชั่น สรุปว่า ประชาชนให้การสนับสนุนการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นมากขึ้น โดย ประการแรก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้แสดงถึงความเด็ดขาดรุนแรงและจริงจังในการลงโทษคนโกง และป้องกันมิให้เกิดเหตุคอร์รัปชั่นขึ้น ซึ่งถือเป็นการแสดงเจตจำนงค์ทางการเมืองที่ชัดเจนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนจากการเมืองไทย
ประการที่สองคือ ช่วงเวลานี้ไม่มีเครือข่ายนักการเมืองที่คอยชักใย ใช้อำนาจ แทรกแซง กดดัน และช่วยเหลือคุ้มครองขบวนการโกง
ประการที่สาม โครงการลงทุนขนาดใหญ่ถูกระงับไปชั่วคราว หลายโครงการกำลังถูกตรวจสอบ และประการสุดท้าย กระแสความตื่นตัวและออกมาเรียกร้อง คัดค้านต่อต้านการโกง ของประชาชนอย่างเข้มแข็งมากขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา และได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็วในหลายกรณี
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นฯ เชื่อว่า สาเหตุที่สถานการณ์คอร์รัปชันของไทยดีขึ้นในช่วงเวลานี้ เกิดจาก 2 ปัจจัยสำคัญคือ ผู้มีอำนาจในประเทศมีความชัดเจนในการปราบปรามคอร์รัปชั่น ความตื่นตัว และการเข้าร่วมของประชาชน ดังนั้นทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้ปัจจัยทั้งสองนี้มีความยั่งยืน เข้มข้นและขยายตัวออกไปอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้คอร์รัปชันในประเทศจะได้ถูกกำจัดให้หมดไป
ข่าวเด่น