SET แกว่งในกรอบ 1532-46 โดยเคลื่อนไหวอิงในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ หลังกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขส่งออกเดือน มิ.ย. โตเพียง 3.9% ซึ่งผิดจากที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ +7.2% นอกจากนี้เชื่อว่ายังถูกกดดันจากแรงขายทริกเกอร์ฟันด์ที่ขึ้นถึงเป้าหมาย (กองทุนในปท.ขายหนัก 1.94 พันลบ.) ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อย 147 ลบ. 

ทิศทางตลาดวันนี้: มีโอกาสรีบาวด์ แต่กรอบขึ้นยังจำกัด หลักๆ รอ FED

หุ้นโลกเมื่อคืน (28 ก.ค.) บวกลบเล็กน้อยไร้ทิศทาง เนื่องจากตลาดรอดูสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างปท. ทั้งกรณีรัสเซีย-ยูเครน (กับชาติตะวันตก) และกรณีอิสราเอล-ปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา นอกจากนี้ ภาพรวมการลงทุนยังคงรอความชัดเจนผลการประชุม FED 29-30 ก.ค.ว่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดบ.ในอนาคตหรือไม่ รวมทั้งตัวเลข GDP Q2 สหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยใน 30 ก.ค. (DB คาด +4.2% vs ตลาดคาด +3.0% พลิกจากที่ -2.9% ใน Q1) ด้านปัจจัยในปท.ยังเป็นข่าวการทำงานของคสช.มีกรอบเวลาอย่างไรบ้าง โดยภายในสัปดาห์นี้คาดว่าในหลวงจะโปรดเกล้าฯ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และจะมีการประชุมนัดแรกภายในกลางเดือนหน้า วันนี้ คสช.จะพิจารณาแผนการลงทุนโครสร้างพื้นฐาน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ SET สามารถรีบาวด์ได้ แต่มองยังไม่น่าจะขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 1550+/- ช่วงนี้ความผันผวนสูงขึ้น มีแนวรับ 1525-30 
 

 กลยุทธ์การลงทุน: เลือกเทรดดิ้งหุ้นรับประโยชน์ศก.ฟื้นตัว-แข็งกว่าตลาด

เรายังแนะนำการเทรดดิ้งรอบนี้ ควรกำหนดจุด “Stop Loss” ที่แน่นอนไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากภาวะตลาดเกิดพลิกผัน โดยขณะนี้เส้นค่าเฉลี่ย 20 วันขึ้นมาอยู่แถว 1518 แล้ว (เส้นนี้ขยับขึ้นวันละประมาณ 2 จุด) จึงเป็นเกณฑ์หลักที่ใช้สำหรับการตัดสินใจชะลอการลงทุน/เทขายหุ้น แล้ว “Wait & See” วันนี้หุ้นรับเหมาน่าจะได้แรงหนุนจากคสช.จะพิจารณาแผนลงทุนรถไฟฟ้า 10 สาย ตัวที่ยังขึ้นน้อย STEC, ITD  หุ้นแนะนำใน Weekly Stock Guru สัปดาห์นี้ (28 ก.ค. – 1 ส.ค.) คือ BEAUTY, BGH, SF, TMB, WHA เป็นหุ้นแนะนำใหม่สำหรับสัปดาห์นี้ “เข้าลงทุน” ส่วน SAMART แนะนำ “ถือ” ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว  หุ้น SET100 ที่ราคายังขยับขึ้นไม่มาก (Laggards) และมีสัญญาณการสะสมหุ้นของต่างชาติ แนะนำ IVL, LH, LOXLEY, MEGA, TOP, WHA โดยหุ้น SET100 Laggards จะปิดธีมการลงทุนพร้อมกันกับเก็งงบ Q2 ดี (HMPRO, KTB) และหุ้นปันผล (BCP, TTW) โดยใช้ราคาปิดวันศุกร์ที่ 1 ส.ค. นี้  

 

หุ้นเด่นรายวัน: SIM , STEC

SIM – คาดงบใน Q2 จะเติบโตสูง 17% YoY และ 52% QoQ มีกำไรที่ 300 ลบ. จากยอดขายสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นมาก 123% YoY และ 17% QoQ มาที่ 8.5 แสนเครื่อง ส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยต่อเครื่องจะเพิ่มขึ้น 6.7% YoY จาก 2,436 บ. เป็น 2,600 บ. ด้วยแนวโน้มการขายมือถือครึ่งปีแรกที่ดีมาก บริษัทจึงปรับเป้าการขายจากเดิม 4 ล้านเครื่องเป็น 4.5 ล้านเครื่อง เรามองกำไรครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก แถมมี upside จาก set top box มูลค่าเหมาะสม 4.88 บ. (PER 20x ปี 57F)

STEC – มองคสช.พิจารณาแผนลงทุนรถไฟฟ้า 10 สายเป็นบวกต่อการลงทุนหุ้นรับเหมา เราชอบ STEC เนื่องจากงบ Q2 คาดโต 34% YoY มีกำไร 371 ลบ., ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีศักยภาพสูงที่จะได้งานใหม่ ปัจจุบันงานในมือ 5 หมื่นลบ. ราคายังขึ้นน้อย +9.6% MTD vs CK +23.8% มูลค่าเหมาะสม 27.5 บ. (PER 28x ปี 58F) 
 

29 ก.ค.
JPตัวเลขอัตราว่างงาน, ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นในเดือน มิ.ย.

USตัวเลขดัชนีราคาบ้าน (S&P/CaseShiller) ของสหรัฐฯ ใน พ.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน ก.ค.

30 ก.ค.
JPตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน มิ.ย. (เบื้องต้น)

EUตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหภาพยุโรปใน ก.ค. (สุดท้าย)

GEตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมันในเดือน ก.ค.

USประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และตัวเลข GDP และการบริโภคของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2/57

USตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศของสหรัฐฯ (ADP Employment Chg.) ในเดือน ก.ค.